กองทัพ ลุยมาตรการปิดตายชายแดนไทย-มาเลย์ เสริมกำลังรับมือกลุ่มลักลอบ หลังมาเลย์สั่งล็อกดาวน์ประเทศแล้ววันนี้
1 มิ.ย. 2564, 09:47
เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 เวลา 13.30 น. พลตรีไพศาล หนูสังข์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่15 ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส พร้อมด้วย พันเอก เฉลิมพร ขำเขียว รองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส รุดลงพื้นที่ หลังนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ออกประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศ 14 วัน เริ่มวันที่ 1 มิถุนายน 2564 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดหนักของโควิด-19 หลังผู้ติดเชื้อพุ่งทะลุ 8,290 คนต่อวัน
จากสถานการณ์ดังกล่าว พลตรีไพศาล หนูสังข์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส พร้อมด้วย ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30 ,รองผู้บังคับชุดควบคุมป้องกันชายแดน และเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้อง รุดลงเรือลาดตระเวนทางน้ำ ตลอดแนวลำน้ำสุไหงโกลก โดยให้ พันเอก เฉลิมพร ขำเขียว รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ลงพื้นที่ลาดตระเวนทางบก ช่องทางธรรมชาติ พื้นที่อำเภอสุไหงโกลก พร้อมสั่งการให้หน่วยทหารในพื้นที่ เพิ่มมาตรการคุมเข้มตลอดแนวชายแดน สกัดกั้นพื้นที่รับผิดชอบ อำเภอตากใบ อำเภอสุไหงโก-ลก และอำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส เพิ่มมาตรการในการลาดตระเวน โดยให้หน่วยได้บูรณาการ การปฏิบัติงานร่วมกันกับทุกภาคส่วนในการบังคับใช้กฎหมายตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวด
การเสริมกำลังตามแนวชายแดน โดยเฉพาะช่องทางที่มีชุมชนหรือหมู่บ้านอาศัยอยู่ใกล้แนวชายแดน การจัดตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และการจัดตั้งแหล่งข่าว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสกัดกั้นการลักลอบการหลบหนีเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย นำโควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกามาแพร่ระบาดในประเทศไทย พร้อมทั้งเตรียมรับมือ หลังประเทศมาเลเซียออกประกาศ ล็อกดาวน์ทั่วประเทศ 14 วัน เริ่มวันที่ 1 มิถุนายนนี้ โดยจัดตั้งที่บังคับการทางยุทธวิธี หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ณ หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30 หมู่ 8 ตำบลปาเสมัส อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส และจัดตั้งกองอำนวยการควบคุมการผ่านแดน ณ ด่านศุลกากรสุไหงโกลก เพื่ออำนวย การปฎิบัติงานในการควบคุมในพื้นที่รับผิดชอบ และเขตพื้นที่ที่เป็นรอยต่อ พร้อมจัดชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ ลาดตระเวนทั้งทางบก และทางน้ำ สกัดกั้นไม่ให้มีการลักลอบข้ามแดนมาได้โดยเด็ดขาด
พร้อมทั้งขอความร่วมมือ เจ้าหน้าที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ ประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจ สร้างความตระหนักรู้ให้กับชุมชน โดยให้ทุกคนทำเพื่อส่วนรวม ป้องกันไม่ให้มีการนำเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์แอฟริกาใต้ ที่กำลังระบาดอยู่ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านกลับเข้ามาในประเทศไทยได้อีก ตลอดจนเน้นย้ำการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ ทุกนายให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อความปลอดภัยสูงสุด