แม่น้องชมพู่ เปิดใจ หลังลุงพลถูกออกหมายจับ เผย"ลูกได้รับความยุติธรรมแล้วนะ"
2 มิ.ย. 2564, 10:04
จากกรณีการหายตัวไปของ “น้องชมพู่” ด.ญ.อรวรรณ วงศ์ศรีชา เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ซึ่งหายตัวไปจากบ้านพักในหมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2563 ก่อนถูกพบเสียชีวิตอยู่บริเวณเขาภูเหล็กไฟ บ้านกกกอก ห่างจากบ้านพักประมาณ 5 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2563 เวลาผ่านไปนานกว่า 1 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถนำตัวผู้กระทำผิดมานำเนินคดีได้
2 มิ.ย. นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่น้องชมพู่ ทันทีที่ทราบว่านายไชย์พล วิภา ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ส่วนตัวมองว่า คนๆ นี้ควรจะมีความเมตตาสงสารน้องชมพู่ มากกว่าคนอื่นที่ไม่เคยรู้จัก แต่ในเมื่อผู้ร้ายเป็นคนรู้จักหรือญาติ ตนคิดว่าเขาควรจะมีความเมตตาต่อเด็ก ทิ้งที่เขาเป็นคนในครอบครัว
ส่วนตัวเชื่อว่า วันที่ 11 พ.ค. 63 น้องชมพู่ยังไม่เสียชีวิต ซึ่งวินาทีนั้น น้องคงร้องไห้ อ้อนวอน ทุกวิถีทาง เพื่ออยากจะกลับบ้านมาหาพ่อแม่ ทำไมคนที่เป็นญาติ ทำไมไม่พาน้องมาเจอพ่อแม่ คุณไม่มีจิตสำนึกต่อเด็กเลยเหรอ
สาเหตุที่ในอดีตตนเคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่าสงสัยลุงพล เนื่องจากตนได้พยายามอะไรหลายๆ อย่างแต่ลุงพลไม่ยอมฟัง และการให้ข่าวกับสื่อของลุงพล มีลักษณะพูดกลับไปกลับมา อย่างเช่นลุงพลเคยบอกว่า ลุงพลมาเติมลมรถที่บ้านแล้วน้องชมพู่ร้องตามลุงพล ถ้าเอาน้องไปด้วยคงไม่ตาย สิ่งนี้คือครั้งแรกที่เขาให้สัมภาษณ์ จากนั้นก็ออกมาแก้ข่าว ว่าจำวันผิด
กรณีที่ พระอาจารย์บุญมา ออกมาให้ข่าว ลุงพลก็ออกมาให้ข่าวโต้พระอาจารย์บุญมา และนายวัชรินทร คงแก่นท้าว หรือ พ่อแบม ออกมาพูดเขาก็ออกมาโต้พ่อแบม และตำรวจก็ไม่ได้สอบสวนแค่ลุงพลคนเดียว ตำรวจสอบสวนคนทั้งหมู่บ้าน รวมทั้งตนเองและนายอนามัยด้วย
ตนอยากฝากถึงสังคม ในฐานะที่ตนเคยตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าฆ่าลูกตัวเองว่า ตนเลือกที่จะนิ่งและปลง ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนตอนนั้น และยอมรับว่าชดใช้กรรมที่ถูกสังคมด่า และลุงพลเขาต้องชดใช้กรรมในสิ่งที่ทำกับน้องชมพู่
ตนอยากบอกกับชมพู่ว่า ลูกได้รับความยุติธรรมแล้วนะ และพ่อกับแม่ทำให้สังคมรู้ว่า เราไม่ทำร้ายลูก เราไม่ฆ่าลูก ลูกที่ตนรอคอยให้เกิดในท้อง อยากให้สังคมมองครอบครัวตนใหม่ด้วย ตนอยากขอบคุณ ผบ.ตร. ที่ให้โอกาสดีๆ กับตนเอง และคลี่คลายคดีนี้
วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดตนเอง และตนรู้สึกว่าตนได้รับพรวิเศษ เป็นของขวัญชิ้นใหญ่ ที่ตำรวจมอบความยุติธรรมให้ครอบครัวตนเอง ถ้าผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ตนในตอนนี้ยังไม่มีความรู้เรื่องกฏหมาย ตนต้องปรึกษาผู้ที่มีความรู้ในด้านนี้ก่อน ตนเชื่อว่าต้องมีคนอยากให้ความช่วยเหลือตนเองบ้าง
ตนเคยบอกผู้ต้องหาก่อนหน้านี้แล้วว่า ใครที่ทำอะไรไว้ ก็ให้มอบตัว โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา แต่ตอนนี้คุณไม่มีโอกาสนั้นแล้ว ยอมรับว่าตนกังวล ที่ผู้ต้องหาเขามีทนายความส่วนตัวเป็นทนายฝีมือดี แต่ตนก็เชื่อว่าหลักฐานที่ตำรวจรวบรวมไว้ จะเอาสามารถเอาผิดคนร้ายได้ ชมพู่เป็นเด็กที่บริสุทธิ์ ตนก็อยากให้ลูกไปสู่สวรรค์ ส่วนเรื่องการหาทนายส่วนตัว ตนจะต้องปรึกษากับตำรวจและครอบครัวอีกครั้ง
กล่าวต่ออีกว่า ชมพู่อยู่กับแม่เสมอ คนที่ฆ่าน้องมีจิตใจที่อำมหิตมากเทียบกับเห็บหมายังไม่ติดเลย เหมือนคนไม่มีเลือดเนื้อ ไม่มีหัวใจ ตอนนี้ตนเองยังมองว่าตนยังไม่ได้รับความเป็นธรรมจนกว่าจะรวบตัวลุงพลมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ และตนอยากเจอหน้า อยากรู้ว่าจะสบตาตนหรือไม่ อยากถามว่าทำแบบนั้นจริงๆ ใช่มั้ยและทำแบบนั้นทำไม