วันที่ 5 มิ.ย.64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะโฆษกกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า จากกรณีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระลอกใหม่ในพื้นที่จังหวัดชั้นในที่มีสถานประกอบการประเภทโรงงานขนาดใหญ่ และใช้แรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาเสียเป็นส่วนใหญ่ และแรงงานเหล่านี้เป็นผู้นำพาพาหะเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปแพร่ระบาด จนการแพร่ระบาดขยายวงกว้างไปทั่วประเทศ

 

โดยจังหวัดกาญจนบุรีเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทสเมียนมาทางด้านทิศตะวันตก มีชายแดนติดต่อกันเป็นระยะทางถึง 371 กิโลเมตร มีช่องทางเข้าออกทางธรรมชาติ 43 ช่องทาง และตลอดเส้นทางแนวชายเป็นเป็นป่าและภูเขาที่สูงชันสลับกันไป ทำให้ผู้นำพาที่มีความชำนาญเส้นทางนำแรงงานที่ต้องการหลบหนี้เข้ามาทำงานในพื้นที่ชั้นในได้โดยง่าย ถึงแม้เจ้าหน้าที่จะสนธิกำลังลาดตระเวนป้องกันตามแนวชายแดนกันตลอด 24 ชั่วโมงก็ตาม

 

ที่ผ่านมาพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมาตรี ฝ่ายความมั่นคง ได้สั่งการในที่ประชุม เรื่อง การบูรณาการความร่วมมือในการบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนในห้วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยกลไกศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านของจังหวัดชายแดน เมื่อวันที่ 24 พ.ค.2564 ที่ผ่านมา

 

และภายใต้การสั่งการของ  พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผบช.ภ.7 ให้ลาดตระเวนป้องกันการกระทำผิดกฎหมายทุกชนิดตามเส้นทางแนวชายแดน โดยเฉพาะการกวดขันเพื่อสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย รวมทั้งด้านยาเสพติด และสินค้าหนีภาษีและอื่นๆ

 

 และที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เจ้าหน้าที่กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 13(ค่ายพระพุทธยอดฟ้า)รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ที่อยู่ตามแนวชายแดนออกลาดตระเวนป้องกันกันมาโดยตลอดทุกวัน ทำให้การลักลอบหลบหนี้เข้าเมืองรวมทั้งการกระทำผิดอื่นๆนั้นเริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัด” พ.ต.อ.พงษกร กล่าว

 

 พ.ต.อ.พงษกร กล่าวว่า แต่เพื่อความไม่ประมาท พล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน รอง ผบช.ภ.7 ดูแลงานด้านความมั่นคงตามแนวชายแดน(มค) พล.ต.ต.วรณัน สุขเจริญ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้ลงพื้นที่เพื่อสำรวจเส้นทางตามแนวชายแดน ในการวางแผนเตรียมติดตั้งกล้อง CCTV ด้วยระบบโซลาเซลล์ เอาไว้ตามช่องทางที่ผู้นำพาและกลุ่มแรงงานเดินเท้าหลบเลี่ยงจุดตรวจจุดสกัดของเจ้าหน้าที่

 

เบื้องต้นได้วางแผนเตรียมการติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) ด้วยระบบโซลาเซลล์ เอาไว้ จำนวน 3 จุด จุดแรกที่ถนนสายห้วยเขย่ง-ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิที่ ทภ.2(ไม้ยักษ์) ซึ่งเป็นเส้นทางหลบหนีเข้าเมืองทางเรือที่มาจากอำเภอสังขละบุรี มาขึ้นฝั่งที่ท่าแพ อ.ทองผาภูมิ ซึ่งเป็นเส้นทางหลบเลี่ยงจุดตรวจหน้าเขื่อนวชิราลงกรณ

 

จุดที่สองที่ถนนสาย 323 ทองผาภูมิ-สังขละบุรี หน้าวัดท่าขนุน  หมู่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ  และจุดที่สาม คือที่บริเวณเขาเรดาร์ ทั้งสองจุดเป็นเส้นทางที่ผู้นำพาและแรงงาน ใช้หลบจุดตรวจสามแยกทองผาภูมิเนื่องจากเส้นทางบริเวณดังกล่าวมีถนนหลบเลี่ยงจุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ มุ่งหน้าสู่อำเภอเมืองกาญจนบุรี และเข้าสู่จังหวัดชั้นใน

 

โดยเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น พล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน รอง ผบช.ภาค 7 ฝ่ายความมั่นคง ได้ลงพื้นที่สำรวจเส้นทาง พร้อมกับมอบกล้อง CCTV ชนิดโซลาเซลล์ จำนวน 20 ตัว ให้กับ พ.ต.อ.บุญส่งวิทย์ ห้องแซง ผกก.สภ.ทองผาภูมิ  ดำเนินการนำไปติดตั้งตามจุดดังกล่าวที่ได้ร่วมกันวางแผนเอาไว้ การติดตั้งคาดว่าคงจะแล้วเสร็จในเร็วๆนี้” พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ กล่าว