โดยภายหลังจากที่ป้ายประกาศดังกล่าวได้ถูกนำไปโพสต์ลงในออนไลน์ ปรากฏว่าได้สร้างความสนใจให้แก่ผู้คนที่พบเห็นเป็นอย่างมาก และต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ทั้งในเชิงตลกขบขัน และส่วนใหญ่ต่างแสดงความคิดเห็นว่าเมืองไทยมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร

เพราะอาชีพสัปเหร่อถือเป็นอาชีพที่ทำสืบทอดกันภายในครอบครัว เพราะจะต้องมีการสอนกันแบบรุ่นต่อรุ่นเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติต่อผู้วายชนม์  คาถาและขั้นตอนการส่งวิญญาณให้ไปสู่สุคติ ซึ่งแม้จะเป็นอาชีพที่ไม่ใฝ่ฝันของใครๆ แต่สามารถสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวได้เป็นอย่างดี

โดยอาชีพสัปเหร่อจะได้รับค่าจ้างจากทางวัดศพละ 1,300 บาท แต่หากมีผู้ช่วยจะต้องนำค่าจ้างส่วนนี้ไปแบ่งกันเอง ขณะที่พิธีการจะเริ่มเมื่อมีญาติเข้ามาติดต่อกับทางวัดเพื่อให้ทำพิธีตั้งแต่นำศพบรรจุใส่โลง ตลอดจนแนะนำขั้นตอนต่างๆ กับญาติจนถึงวันสุดท้ายที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ และนำศพขึ้นเผาและเก็บกระดูกในตอนเช้า จึงถือเป็นอันเสร็จหน้าที่ของสัปเหร่อ

ส่วนพิธีกรประจำวัดจะมีหน้าที่ในการนำสวดมนต์ในงานพิธีต่างๆ และจะมีค่าจ้างรายวันๆ ละประมาณ 4-500 บาท