ทนายตั้มเผยศาลยกฟ้อง ข้อหาแจ้งความเท็จ ลุ้นกองปราบฯ สรุปสำนานฟ้อง 157 อดีตผู้การฯกาญจน์ หรือไม่?
15 ส.ค. 2562, 14:38
วันนี้ 15 ส.ค.62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงาน ความคืบหน้ากรณี นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ สภ.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ในคดีอาญา หมายเลขดำ ที่ อ.1863/61 ข้อหายักยอกทรัพย์ รับของโจร เนื่องจากทั้งคู่ต่างอ้างว่าเป็นเจ้าของสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.60 เลข 533726 จำนวน 1 ชุด 5 ใบ เป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาท ต่อมาวันที่ 4 มิ.ย. 2562 ศาลจังหวัดกาญจนาบุรี มีคำพิพากษายกฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว
แต่ก่อนหน้านี้คือเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2560 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการทีมงานทนายประชาชนฯ ทนายความส่วนตัวของ ร.ต.ท.จรูญ ได้เข้าพบ พ.ต.ต.ชัยวัชริศ สิงห์สังข์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ นางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ เจ๊บ้าบิ่น ในคดีอาญา โดยแจ้งว่า เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2560 นางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น ได้ขายสลากกินแบ่งฯ หมายเลข 533726 จำนวน 5 ใบ ในราคา 700 บาท ซึ่งเกินราคากว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งสลากชุดดังกล่าวเป็นสลากในงวดที่ออกสลากรางวัลที่ 1 ประจำงวดวันที่ 1 พ.ย. 2560
ต่อมาวันที่ 25 ต.ค.2561 อัยการจังหวัดกาญจนบุรี ได้พิจารณาแล้ว เห็นว่ากรณีดังกล่าว พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้มีการเปรียบเทียบปรับไปแล้ว จึงเป็นกรณีที่ตามกฎหมายถือว่าคดีอาญานี้ได้เสร็จสิ้นไปแล้ว จึงมีคำสั่งไม่ฟ้องนางสาวรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น
แต่อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 62 น.ส.รัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ เจ๊บ้าบิ่น พร้อมด้วย นายวชิระ ทานท่า ทนายความส่วนตัว ได้เดินทางไปใช้สิทธิ์ทางศาลในการฟ้องคดีอาญา นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ และร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ ในข้อหาแจ้งความเท็จ กลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญา ซึ่งศาลจังหวัดกาญจนบุรีได้รับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.442/2562 ในข้อหาแจ้งความเท็จ และแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ และกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญา ตามมาตรา 137, 172, และ มาตรา 174 และศาลได้ไต่สวนมูลฟ้องนัดแรก เมื่อวันที่ 4 ก.ค.และนัดที่สอง คือวันที่ 14 ส.ค.62 จากนั้นศาลได้นัดคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาในวันนี้ (15 ส.ค.)เวลา 08.30 น.
ขณะเดียวกันวันนี้ (15 ส.ค.62) ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ยังได้นัดไต่สวนมูลฟ้องอีก 1 คดี คือคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.1094/62 ที่นางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น ยื่นฟ้องนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ในความผิดเกี่ยวกับการยุติธรรม สำหรับคดีนี้เมื่อวันที่ 22 ก.ค.62 ศาลจังหวัดกาญจนบุรีได้มีการมีการนัดไต่สวนมูลฟ้องมาแล้วครั้งหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้เวลา 08.30 น.นายวชิระ ทานท่า ทนายความส่วนตัวของเจ๊บ้าบิ่น ได้เดินทางเข้าไปภายในศาลเพื่อรอบรับฟังคำสั่งหรือคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อ.442/2562 ก่อนแล้ว ส่วนนางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น (โจทก์)ไม่ได้เดินทางมาร่วมรับฟังด้วย
ต่อมาเวลา 09.00 น. นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ จำเลยที่ 1 และ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ จำเลยที่ 2 ก็มาถึงโดยมีนายอาคม คงสวัสดิ์ ทนายความส่วนตัวในคดีดังกล่าวเดินทางมาด้วย
ทั้งนี้นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เปิดเผยว่าก่อนเข้าเข้าไปภายในบัลลังก์ว่า ก่อนหน้านี้ทราบข่าวแล้วว่าศาลได้มีคำสั่งพิพากษายกฟ้อง ในกรณีที่เจ๊บ้าบิ่นฟ้องผมและคุณลุงจรูญ ในข้อหาแจ้งความเท็จเหตุเกิดจากการที่ผมได้ไปแจ้งความดำเนินคดีเจ๊บ้าบิ่น ในเรื่องขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา จากนั้นเจ๊บ้าบิ่นก็ได้มาฟ้องผมกับลุงจรูญ
และวันนี้ศาลได้นัดมาฟังคำพิพากษาซึ่งศาลท่านได้พิพากษาว่าไม่มีมูลจึงมีคำสั่งยกฟ้อง เพราะว่าข้อหาแจ้งให้พนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ และแจ้งความเท็จ รวมทั้งกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญานั้น มันจะต้องเป็นข้อสาระสำคัญในคดี ส่วนในประเด็นคดีขายสลากเกินราคา ข้อสำคัญในคดีก็คือว่าตัวเจ๊บ้าบิ่นเอง ได้ขายเกินราคาจริงหรือไม่ แต่ประเด็นในเรื่องที่ว่าขายให้ใคร ราคาเท่าไหร่นั้น ไม่ใช่สาระสำคัญ ถึงแม้ว่าเขาจะอ้างว่าขายให้กับครูปรีชาก็ตาม แต่ว่าทางเจ๊บ้าบิ่นเขาก็รับสารภาพไปแล้วว่าเขาได้ขายสลากเกินราคาจริง ดังนั้นวันนี้ศาลจึงมีคำพิพากษาไม่มีมูลจึงมีคำสั่งยกฟ้องผมกับลุงจรูญ
ในส่วนคดีที่เจ๊บ้าบิ่น ฟ้องผมเป็นจำเลยคนเดียว ซึ่งก็เป็นในมูลคดีเดียวกัน เนื่องจากผมได้ไปแจ้งความร้องทุกข์เขาไว้ในเรื่องขายสลากเกินราคา คือถ้าผมเข้าไปแจ้งความเขาก็จะแจ้งผมมา 1 กรรม อีก 1 กรรม ก็คือที่ผมให้การในเรื่องเดียวกัน เขาจึงดำเนินการแยกฟ้องมาอีกคดีหนึ่ง
ซึ่งอันที่จริงแล้วมันคือเจตนาเดียวกัน ทั้งหมดมันก็คือกรรมเดียวกัน อันที่จริงแล้วมันไม่ใช่ความผิดครั้งเดียวจะเอามาฟ้องกันได้หลายครั้ง เช่นมาแยกฟ้องผมครั้งหนึ่ง และไปแยกฟ้องลุงจรูญอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะมีการขึ้นศาลในเดือนหน้า
แต่ในวันนี้จะมีการไต่สวนมูลฟ้องในคดีที่เจ๊บ้าบิ่น แยกฟ้องผมคนเดียว คือเรื่องการให้การเท็จ ซึ่งเดี๋ยวในวันนี้ก็จะเสนอพยานหลักฐานไป แต่คิดว่าคงไม่มีเรื่องน่ากังวลใจ ซึ่งคาดว่าวันนี้การไต่สวนมูลฟ้องก็คงจะแล้วเสร็จ เพราะอย่างที่ผมบอกว่ามันเป็นคดีมูลเดียวกัน เพียงแต่ว่าเขาแยกออกมาให้เป็น 2 คดีเท่านั้นเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทราบข่าวว่าพนักงานสอบสวนจากกองปราบเดินทางมาสอบปากคำลุงจรูญและทนายตั้มเพิ่มเติม ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร” ทนายตั้มตอบว่า พนักงานสอบสวนจากกองปราบมาสอบปากคำเพิ่มเติมอยู่ใน 2 ประเด็น ประเด็นหลักๆก็คือเรื่องของผู้การสุทธิ พวงพิกุล อดีตรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ที่ทางกองปราบกำลังจะมีคำสั่งว่ากองปราบมีความเห็นสั่งฟ้องหรือไม่สั่งฟ้องผู้การสุทธิ ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มาตรา 157 ที่ทางครูปรีชากับเจ๊บ้าบิ่นเป็นจำเลยข้อหาสนับสนุนด้วย อีกประเด็นก็คือ การที่ทางครูปรีชา ไปร้องว่ามีการนำเอาสำนวนหลักฐานออกมา ซึ่งเราก็ให้การกับพนักงานสอบสวนกองปราบไปแล้วตามความเป็นจริงทั้ง 2 ประเด็น
สำหรับคดีของผู้การสุทธิ นั้นตอนแรก ปปป.ดำเนินคดี จากนั้น ปปป.ได้ส่งไปที่ ป.ป.ช.แต่ต่อมา ป.ป.ช.ได้ส่งเรื่องกลับมาให้กองปราบ เพื่อให้สรุปสำนวน และตอนนี้กำลังมีการสรุปสำนวน คาดว่าคงจะอีกประมาณภายในอาทิตย์หน้า ก็คงจะรู้แล้วว่ากองปราบจะเดินเนินคดีกับผู้การสุทธิ หรือไม่ ถ้าหากกองปราบดำเนินคดีกับผู้การสุทธิ พวงพิกุล ทางครูปีชา กับเจ๊บ้าบิ่น ก็จะโดนข้อหาสนับสนุนด้วย แต่ถ้าหากผู้การสุทธิ ไม่โดนดำเนินคดี ทั้งครูปรีชาและเจ๊บ้าบิ่นก็จะไม่ถูกดำเนินคดีไปด้วย”ทนายตั้มกล่าว
ด้านหมวดจรูญ ได้กล่าวอย่างมีความหวังว่า กรณีที่ได้ยื่นร้องขอให้ศาลมีคำสั่งถอนอายัดเงินในบัญชี ซึ่งศาลได้นัดไต่สวนในวันที่ 22 ส.ค.ที่จะถึงนี้นั้น ก็คิดว่าศาลท่านคงจะเมตตา เราเดือดร้อนมาเกือบ 2 ปีแล้ว โดยที่เราไม่ได้ทำผิดอะไรเลย ทั้งสองฝ่ายก็ขึ้นศาลกันมาเยอะแล้ว ก็หวังว่าในวันนั้นคงจะได้รับความเมตตาจากศาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า”หลังจากที่เจ๊บ้าบิ่น ไม่ได้เดินทางไปฟังคำพิพากษาที่ตนเองเป็นโจทก์ยื่นฟ้องทนายตั้มและหมวดจรูญ ด้วยตนเอง ดังนั้นผู้สื่อข่าวจึงเดินทางมาที่ตลาดเรดซิตี้ ซึ่งก็ปรากฏว่าพบเจ๊บ้าบิ่น กำลังขะมักเขม้นอยู่กับการขายลอตเตอรี่ให้กบลูกค้าที่มาอุดหนุน ขณะเดียวกันนางสาวพัชริดา พรมตา หรือเจ๊พัช ก็กำลังขายลอตเตอรี่ให้กับลูกค้าด้วยเช่นกัน ส่วนนางปนัญชยา สุขผล หรือ เจ๊เกียว ไม่ได้เดินทางมาขายลอตเตอรี่ด้วย ซึ่งทราบว่าอยู่ระหว่างทำบุญในวันเทศกาลสารทจีน
ทั้งนี้เจ๊บ้า ได้กล่าวเพียงสั่นๆว่า สาเหตุที่ไม่ได้เดินทางไฟฟังคำพิพากษาด้วยตนเอง เป็นเพราะว่าลอตเตอรี่เหลือเยอะมาก อีกทั้งพรุ่งนี้หวยก็จะออกแล้ว จึงจำเป็นจะต้องมาขายลอตเตอรี่เพื่อทำมาหากินกันไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าล่าสุดเวลา 12.10 น.นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ได้แจ้งให้สื่อมวลชนทราบว่า วันนี้ศาลไต่สวนมูลฟ้องคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.1094/62 ที่นางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น ยื่นฟ้องตนเพียงคนเดียว ในความผิดเกี่ยวกับการยุติธรรม เพียงแค่ปากเดียวคือปากของพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี และจบการพิจารณาแล้ว โดยศาลได้นัดฟังคำพิพากษาหรือคำสั่ง ในวันที่ 13 ก.ย. เวลา 9.00 น.
และล่าสุดเวลา 12.50 น.นายวชิระ ทานท่า ทนายความส่วนตัวเจ๊บ้าบิ่น เปิดเผยว่า คดี หมายเลขดำ อ.442/2562 เจ๊บ้าบิ่นยื่นฟ้องทนายตั้มกับหมวดจรูญ ในข้อหา แจ้งความเท็จ ศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง ทั้งนี้ตนจะต้องถามทางด้านเจ๊บ้าบิ่น อีกครั้งว่าจะใช้สิทธิในการยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้นต่อไปหรือไม่