วันนี้ ( 8 มิ.ย.64 ) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้แถลงหลังการเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยระบุว่า จากสถานการณ์การโควิด-19 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้มีการจ้างพนักงานราชการเฉพาะกิจ จำนวน 10,000 อัตรา เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 เป็นวงเงินจำนวนกว่า 2,200 ล้านบาท โดยจะเปิดรับผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีที่จบใหม่ จัดสรรอัตราในหน่วยงานราชการที่มีภารกิจสำคัญ และเร่งด่วนทั่วประเทศ โดยเฉพาะในส่วนภูมิภาค ซึ่งจะได้รับค่าตอบแทน 18,000 บาทต่อเดือน มีสัญญาการจ้างงานไม่เกินหนึ่งปี และได้รับสิทธิประโยชน์เทียบเท่าพนักงานราชการปกติ รวมถึงเงินประกันสังคมด้วย อันนี้เป็นมาตรการหนึ่งที่รัฐบาลต้องการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เรียกว่าเป็นพนักงานราชการเฉพาะกิจ

นอกจากนั้นคณะรัฐมนตรีรับทราบข้อเสนอจาก ศบศ. หรือ ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ คือการเตรียมการเปิดพื้นที่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติของ 10 จังหวัดนำร่องในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ของปี 64 โดยเริ่มจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ก่อน เพื่อเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนครบแล้ว 2 โดส ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป จากสถานการณ์ในปัจจุบันจนถึงวันนี้ ภูเก็ตมีผู้ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็มแล้ว ประมาณ 400,000 คน มากกว่า 60% ของประชากร โดยจะมีการคัดกรองและติดตามนักท่องเที่ยวอย่างเข้มงวด นักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาต้องมีใบรับรองการฉีดวัคซีนที่ฉีดครบโดสอย่างน้อย 14 วัน ก่อนการเดินทาง มีใบอนุญาตเข้าประเทศอย่างถูกต้อง มีการตรวจระหว่างช่วงการพักอาศัยในพื้นที่ โดยภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์นั้นจะเป็นการประเมินผล และนำไปเป็นต้นแบบในพื้นที่อื่นๆ ด้วยในระยะต่อไป 

โดยคณะรัฐมนตรีรับทราบในนโยบายนี้ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนำไปปรับปรุงรายละเอียดให้เกิดความเหมาะสมภายใต้ความสมดุลทางด้านความปลอดภัย ด้านการสาธารณสุข และการฟื้นฟูทางด้านเศรษฐกิจไปด้วย ก่อนจะนำเข้าสู่การพิจารณาของ ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ชุดใหญ่ และกลับมาให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติรายละเอียดปรับแก้ไขต่อไป