แม่น้องชมพู่ เตรียมเปิดตัวทนายความฝีมือดี
8 มิ.ย. 2564, 15:08
ความคืบหน้าวันนี้ที่บ้านของน้องชมพู่ นายบุญถาวร ปัญญาสิทธิ์ ทนายความ ได้เดินทางเข้ามาพบกับแม่ของน้องชมพู่ โดยตั้งใจที่จะเดินทางเข้ามาให้กำลังใจ และมอบเงินเพื่อร่วมทำบุญกับแม่ของน้องชมพู่ นอกจากนั้นยังเข้ามาให้คำปรึกษาในข้อกฎหมาย เพราะเกรงว่าแม่ของน้องชมพู่ จะถูกเข้ามากลั่นแกล้งหรือข่มขู่ หรือถ้าหากครอบครัวของน้องชมพู่ ไม่ได้รับความเป็นธรรมตนก็พร้อมที่จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือทันที
ทั้งนี้ทนายบุญถาวร ยังยืนยันด้วยว่าการเดินทางเข้ามาพบแม่น้องชมพู่ ในวันนี้ไม่ได้มีนัยยะอะไรแอบแฝง แม้ที่ผ่านมาตนเคยยื่นเรื่องกับสภาทนายความให้ตรวจสอบมูลนิธิของทนายตั้มมาแล้ว แต่ก็อยากขอติทนายตั้ม เรื่องการใช้ข้อกฏหมาย เพราะทนายตั้ม ได้อ้างว่าการที่ตำรวจออกหมายจับลุงพล ถือว่าเป็นการออกหมายโดยที่ไม่มีความชอบธรรม แต่อย่าลืมว่าการออกหมายศาลเป็นผู้ออก โดยมีตำรวจหรือพนักงานสอบสวนของคดีเป็นผู้ยื่นขอ ซึ่งถือว่าเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย
ถ้าทนายตั้ม เห็นว่ามันไม่ชอบธรรมก็ไปแจ้งจับตำรวจที่เป็นคนขอหมายจับ หรือไม่ก็ไปฟ้องต่อศาล แต่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าคดีนี้มันมีผู้เสียชีวิต และในฐานะตำรวจก็ต้องสืบสวน เพื่อหาตัวคนร้าย จนนำไปสู่การออกหมายจับ ซึ่งตำรวจใช้เวลาสืบคดีเป็นปี ไม่มีความจำเป็นใดๆ ทั้งสิ้นที่จะต้องออกหมายเรียก เพราะคดีนี้มันไม่ใช่คดีฉ้อโกงหรือคดีที่มีอัตราโทษต่ำ
ยังมีเรื่องที่ทนายตั้ม เข้าไปร้องเรียนกับนายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เป็นเรื่องที่ไม่ควร เพราะเหมือนกับว่าเป็นการดึงการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง และกรณีที่ทนายษิทรา ไปท้าอาจารย์ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญาธนบุรี ตัวเองก็ไม่เห็นด้วย และคิดว่าเป็นการกระทำไม่เหมาะสมกับอาชีพทนายความ อีกทั้งเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับทนายความรุ่นหลัง
ขณะที่นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่ เปิดเผยว่า ทนายที่เดินทางเข้ามาเยี่ยมตนในวันนี้ ยังไม่ใช่ทนายความที่ตนเลือก เพื่อที่จะเอามาต่อสู้คดีในชั้นศาล ซึ่งในวันพรุ่งนี้ทุกคนจะได้รู้ว่าทนายคนนี้เป็นใคร ส่วนตนเชื่อว่าเขาเป็นทนายที่เก่งมาก และตนมีความเชื่อมั่น โดยก่อนหน้านี้ตนยอมรับว่าได้ทำการบ้าน และหาข้อมูลเยอะมากๆ กว่าจะตัดสินใจเลือกทนายคนนี้ เพราะเชื่อว่าฝีมือน่าจะสูสีกับทนายตั้ม อีกทั้งทีมทนายยังทำให้ครอบครัวตนอุ่นใจ และเชื่อว่าจะทวงความยุติธรรมให้ครอบครัวเราได้ พร้อมขอบคุณทนายคนอื่นๆที่เข้ามาให้กำลัง ให้คำปรึกษา และให้คำแนะนำต่างๆ ตนรู้สึกดีใจมากที่ทุกคนมีน้ำใจมาก
ส่วนประเด็นเรื่องเครื่องซินโครตรอนตรวจเส้นผมนั้น ตนไม่ได้กังวลอะไร แต่เชื่อว่าตำรวจน่าจะทำทุกวิธีดีที่สุด โดยหลังจากนี้เรื่องของคดีและหลักฐานต่างๆ ตนจะให้ทนายเป็นผู้ตอบแทนทั้งหมด
นอกจากนี้ในวันพรุ่งนี้ทนายตั้มจะพาลุงพลเข้าพบนายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ตนยอมรับมีกังวลใจบ้าง แต่เชื่อว่าผู้ใหญ่มีความรู้เรื่องสิทธิดี ว่าทิศทางของเรื่องนี้น่าจะไปในทิศทางไหน.
ความคืบหน้าวันนี้ที่บ้านของน้องชมพู่ นายบุญถาวร ปัญญาสิทธิ์ ทนายความ ได้เดินทางเข้ามาพบกับแม่ของน้องชมพู่ โดยตั้งใจที่จะเดินทางเข้ามาให้กำลังใจ และมอบเงินเพื่อร่วมทำบุญกับแม่ของน้องชมพู่ นอกจากนั้นยังเข้ามาให้คำปรึกษาในข้อกฎหมาย เพราะเกรงว่าแม่ของน้องชมพู่ จะถูกเข้ามากลั่นแกล้งหรือข่มขู่ หรือถ้าหากครอบครัวของน้องชมพู่ ไม่ได้รับความเป็นธรรมตนก็พร้อมที่จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือทันที
ทั้งนี้ทนายบุญถาวร ยังยืนยันด้วยว่าการเดินทางเข้ามาพบแม่น้องชมพู่ ในวันนี้ไม่ได้มีนัยยะอะไรแอบแฝง แม้ที่ผ่านมาตนเคยยื่นเรื่องกับสภาทนายความให้ตรวจสอบมูลนิธิของทนายตั้มมาแล้ว แต่ก็อยากขอติทนายตั้ม เรื่องการใช้ข้อกฏหมาย เพราะทนายตั้ม ได้อ้างว่าการที่ตำรวจออกหมายจับลุงพล ถือว่าเป็นการออกหมายโดยที่ไม่มีความชอบธรรม แต่อย่าลืมว่าการออกหมายศาลเป็นผู้ออก โดยมีตำรวจหรือพนักงานสอบสวนของคดีเป็นผู้ยื่นขอ ซึ่งถือว่าเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย
ถ้าทนายตั้ม เห็นว่ามันไม่ชอบธรรมก็ไปแจ้งจับตำรวจที่เป็นคนขอหมายจับ หรือไม่ก็ไปฟ้องต่อศาล แต่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าคดีนี้มันมีผู้เสียชีวิต และในฐานะตำรวจก็ต้องสืบสวน เพื่อหาตัวคนร้าย จนนำไปสู่การออกหมายจับ ซึ่งตำรวจใช้เวลาสืบคดีเป็นปี ไม่มีความจำเป็นใดๆ ทั้งสิ้นที่จะต้องออกหมายเรียก เพราะคดีนี้มันไม่ใช่คดีฉ้อโกงหรือคดีที่มีอัตราโทษต่ำ
ยังมีเรื่องที่ทนายตั้ม เข้าไปร้องเรียนกับนายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เป็นเรื่องที่ไม่ควร เพราะเหมือนกับว่าเป็นการดึงการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง และกรณีที่ทนายษิทรา ไปท้าอาจารย์ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญาธนบุรี ตัวเองก็ไม่เห็นด้วย และคิดว่าเป็นการกระทำไม่เหมาะสมกับอาชีพทนายความ อีกทั้งเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับทนายความรุ่นหลัง
ขณะที่นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่ เปิดเผยว่า ทนายที่เดินทางเข้ามาเยี่ยมตนในวันนี้ ยังไม่ใช่ทนายความที่ตนเลือก เพื่อที่จะเอามาต่อสู้คดีในชั้นศาล ซึ่งในวันพรุ่งนี้ทุกคนจะได้รู้ว่าทนายคนนี้เป็นใคร ส่วนตนเชื่อว่าเขาเป็นทนายที่เก่งมาก และตนมีความเชื่อมั่น โดยก่อนหน้านี้ตนยอมรับว่าได้ทำการบ้าน และหาข้อมูลเยอะมากๆ กว่าจะตัดสินใจเลือกทนายคนนี้ เพราะเชื่อว่าฝีมือน่าจะสูสีกับทนายตั้ม อีกทั้งทีมทนายยังทำให้ครอบครัวตนอุ่นใจ และเชื่อว่าจะทวงความยุติธรรมให้ครอบครัวเราได้ พร้อมขอบคุณทนายคนอื่นๆที่เข้ามาให้กำลัง ให้คำปรึกษา และให้คำแนะนำต่างๆ ตนรู้สึกดีใจมากที่ทุกคนมีน้ำใจมาก
ส่วนประเด็นเรื่องเครื่องซินโครตรอนตรวจเส้นผมนั้น ตนไม่ได้กังวลอะไร แต่เชื่อว่าตำรวจน่าจะทำทุกวิธีดีที่สุด โดยหลังจากนี้เรื่องของคดีและหลักฐานต่างๆ ตนจะให้ทนายเป็นผู้ตอบแทนทั้งหมด
นอกจากนี้ในวันพรุ่งนี้ทนายตั้มจะพาลุงพลเข้าพบนายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ตนยอมรับมีกังวลใจบ้าง แต่เชื่อว่าผู้ใหญ่มีความรู้เรื่องสิทธิดี ว่าทิศทางของเรื่องนี้น่าจะไปในทิศทางไหน.