สั่งคุมเข้ม ! "แนวชายแดน" สกัดกั้นแรงงานต่างชาติหนีเข้าประเทศ ช่วงโควิดระบาด
12 มิ.ย. 2564, 11:17
วันที่ 12 มิ.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.อภิศักดิ์ เดชะคำภู รอง ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 3 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมพจน์ ขอบปรางค์ ผู้บังคับการ ตำรวจภูธร จ.อุบลราชธานี และ กองร้อยทหารพรานที่ 2301 ออกตรวจเยี่ยมกำชับการปฏิบัติหน้าที่ความมั่นคงในพื้นที่ตามแนวชายแดนที่จุด ภูมดง่าม เขต ตำบลช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จ.อุบลราชธานี
เนื่องจากพื้นที่ ภูมดง่าม ของประเทศไทย จ.อุบลราชธานี ติดแนวเขตประเทศ สปป.ลาว และ มักมีแรงงานต่างด้าว เดินทางหลบหนีเข้าประเทศไทยบ่อยครั้ง เนื่องจากเป็นจุดข้ามแดนเส้นทางธรรมชาติ และเป็นพื้นที่ลานกว้าง จึงทำให้การข้ามแดนค่อนข้างง่าย โดยเฉพาะช่วงสถานการณ์โควิด ส่งผลให้แรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน ( สปป.ลาว ) ลับลอบข้ามแดนอย่างผิดกฎหมายมากขึ้น เพราะทุกคนต้องการเดินทางข้ามมาหางานทำในประเทศไทย ซึ่งส่วนใหญ่แรงงานต่างด้าวจะเข้ามารับจ้างทำงานก่อสร้าง คนสวน คนงานตามร้านอาหาร และ เป็น แม่บ้าน และที่สำคัญมารับจ้างดำนา ปลูกข้าว และ ทำไร่ ให้กับคนไทย เพราะมีราคาค่าจ้างที่สูง พร้อมทั้งยังมีที่พัก และ อาหารเลี้ยง จึงทำให้แรงงานต่างด้าวพยายามหลบหนีเข้าประเทศเป็นระยะ ๆ แม้ช่วงสถานการณ์โควิดก็มีการลักลอบเข้าประเทศแบบไม่กลัวการแพร่ระบาดเชื้ออยู่บ่อยครั้ง
ทางด้าน พล.ต.ต.อภิศักดิ์ เดชะคำภู รอง ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 3 ร่วมออกตรวจการพื้นที่ตามภูมิประเทศ โดยช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดนเป็นความรับผิดชอบของหน่วยทหาร และ พื้นที่ที่ห่างออกจากแนวชายแดนประมาณ 2 กม. ซึ่งเป็นพื้นที่ และเส้นทาง ที่ใช้เพื่อเข้าไปพื้นที่ตอนใน เป็นความรับผิดชอบของ ตำรวจ พื้นที่ และหน่วยงานความมั่นคงอื่นที่เกี่ยวข้อง จึงได้กำชับการปฏิบัติของทุกหน่วยให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และ ตำรวจภูธร ภาค 3 ซึ่งจากการตรวจเยี่ยมพบว่า หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ได้บูรณาการการปฏิบัติด้วยกัน อย่างแน่นแฟ้น มีการแบ่งหน้าที่ชัดเจน ทุกหน่วยปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง แต่หากมีกลุ่มเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือมีส่วนเกี่ยวข้องรับค่าจ้าง กับการขนแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีกฎลงวินัยร้ายแรงต่อนายตำรวจรายนั้นๆ ถึงกับไล่ออกจากข้าราชการตำรวจทันที และ ยังสามารถดำเนินคดีทางอาญาต่อตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องขั้นสูงสุดอีกด้วย