วันนี้ 12 มิ.ย.64 ที่ผ่านมาผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายสาวิตร เจียมจีระพร นายอำเภอไทรโยค จ.กาญจนบุรี นายไพโรจน์ เขียวแก้ว หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.1(ท่าเสา)ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าที่บ้านไม่มีเลขที่ พิกัด 47 P0518970 E 1549194 N หมู่ 4 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค มีพฤติกรรมตัดไม้หวงห้ามมาเผาถ่านขาย จึงได้สั่งการให้นายณรงค์ บุญรักษา ผู้ช่วยหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.1(ท่าเสา)นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ไทรโยค เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.19 (บ้องตี้)

 

เจ้าหน้าที่ฐานปฏิบัติการป้องกันรักษาป่าที่ กจ.1(ไทรทอง) เจ้าหน้าที่สายตรวจปราบปรามสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3(สาย 2) จ้าหน้าที่ทหารหมวดลาดตระเวนป้องกันชายแดน ที่ 1(บ้องตี้บน) ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เจ้าหน้าที่ ตชด.ที่ 136 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง องไทรโยค รวมทั้งเจ้าหน้าที่ ตร.บก.ปทส.เดินทางไปตรวจสอบ

 

ไปถึงพบชายวัยรุ่นกำลังนอนหลับ เจ้าหน้าที่จึงปลุกเรียกให้ตื่นพร้อมกับคุมตัวเอาไว้ ทราบชื่อคือนายอ้วน ไม่มีนามสกุล ชาวกะเหรี่ยง ที่เกิดในประเทศไทย อายุ 25 ปี จากการตรวจสอบพบเตาเผาถ่าย จำนวน 5 เตา กระสอบบรรจุถ่าน จำนวน 87 กระสอบ ปิดคลุมเอาไว้ด้วยผ้าใบ ไม้ท่อนกองกยู่ใกล้กับเตาเผาถ่าน จำนวน 33 ท่อน ไม้แปรรูป จำนวน 41 แผ่น รวมทั้งเลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 1 เครื่อง เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดเอาไว้เป็นของกลาง

 

จากการสอบสวนนายอ้วน ให้การว่าตนได้รับการว่าจากจากนายณุ ไม่ทราบชื่อและนามสกุล ให้เฝ้ารอเพื่อนำถ่านที่ถูกเผาบรรจุใส่กระสอบ โดยได้ค่าจ้างเตาเผาละ 500 บาท สำหรับของกลางที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดนั้นไม่ใช่ของตน แต่ตนเป็นเพียงแค่ผู้รับจ้างเท่านั้น

 

ทั้งนี้นายณรงค์ บุญรักษา ผู้ช่วยหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.1(ท่าเสา)กล่าวว่า จากการตรวจพบไม้ของกลางที่นำมาเผาถ่านนั้นเป็นไม้กะยาเลยหลายชนิด ที่ไม่ใช่การเผาถ่านขายตามวิถีของชาวบ้านทั่วไป เพราะไม้ที่พบเป็นไม้หวงห้ามมีทั้งไม้ท่อนและไม้แปรรูป ที่ตัดมาจากเขตป่าสงวนป่าวังใหญ่และป่าแม่น้ำน้อย มีมูลค่ารวมกันมากกว่า 97,000 หมื่นบาท

 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายอ้วน พร้อมนำของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมในการติดตามหาตัวเจ้าของที่แท้จริงเพื่อติดตามตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนนายอ้วนก็ต้องถูกดำเนินคดีเช่นกัน