นางแต้ม ภูไชยแสง อายุ 77 ปี แม่ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ขอร้องว่าอย่ามาโจมตีหรือกล่าวหาว่าพวกตนเป็นคนร่ำรวย แม่ไม่ได้มีเงินทองตามที่เขาว่าหรอก ส่วนลูกชายผู้ตายเวลาหาได้ก็ใช้ไปฟุ้งเฟ้อ ส่วนวันไหนหาเงินไม่ได้ก็ต้องกินมาม่าแทนข้าว บ้านซุกหัวนอนก็ต้องเช่า และรถยนต์คันเกิดเหตุก็ต้องซื้อผ่อนส่งเขาเดือนละ 40,000 บาท และยังต้องเหลือค่างวดอยู่อีกประมาณ 1 ปีถึงจะจ่ายหนี้งวดรถหมด เวลาหาเงินมาได้กินเที่ยวไปเรื่อยตามประสาคนหนุ่มที่ไม่มีครอบครัว เงินเก็บออมในธนาคารก็ไม่มี เวลาหาเงินได้ก็ได้เยอะแต่บางเดือนก็ไม่ได้ตลอด หาเงินได้ก็ฝากมาให้แม่ แต่พอไม่มีก็เอาคืนไปเหมือนเดิม ส่วนแม่ก็เป็นยายแก่คนบ้านนอกไม่มีสมบัติมรดกอะไรตามที่เขาว่าหรือเป็นข่าว ทั้งนี้ก็ไม่คิดว่าลูกชายคนเล็กจะต้องจากไปก่อนวัยอันควร ถ้าหากเขามีชีวิตอยู่ก็จะทำให้แม่มีความสุขได้

ด้าน นายภูริทัต ภูร์ชัยแสง พี่ชายผู้ตาย กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ดำเนินการอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เพราะอยู่ในช่วงระหว่างจัดงานศพน้องชาย แต่อย่างไรก็ขอแสดงความเสียใจกับญาติๆ ผู้สูญเสียคู่กรณีกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่อยู่ในโรงพยาบาลหนองไผ่ ก็ได้ถามหาคุณพ่อคุณแม่เขาอยู่ว่าได้มาด้วยหรือไม่ แต่เราก็ไม่สามารถติดต่อเขาได้ ก็เจอแต่ญาติเขาด้วยความรีบเร่งจัดการเอาศพออกจากโรงพยาบาลก่อน เพราะบ้านไกลยิ่งคนอยู่สมุยยิ่งอยู่ไกลต้องออกก่อน แล้วผมก็มาถึงบึงกาฬดึก 3 ทุ่ม เดินทางเป็นระยะไกลตั้ง 500-600 กิโลเมตรเดินทางมาทั้งวัน เลยไม่มีเวลาที่จะต้องดูแลและคุยกันมากนัก อย่างไรก็ขอฝากประกันทางโน้นหลังจากเสร็จงานฌาปนกิจแล้วค่อยมาคุยและเคลียร์กัน ต้นเหตุสาเหตุข้อเท็จจริงมันคืออะไร

พี่ชายผู้ตาย กล่าวต่อว่า ส่วนฝ่ายตำรวจก็บอกว่าให้ดำเนินการจัดการกับศพเรียบร้อยก่อน เพราะว่ายังไม่สามารถสรุปสาเหตุอะไรได้พยานหลักฐานบางอย่างก็ต้องตามหา และน้องผู้หญิงวัย 18 ปี ที่เป็นพยานในเหตุการณ์คนหนึ่งซึ่งได้รับบาดเจ็บให้เขาหายและให้ปากคำได้ จึงจะได้แนวทาง แต่ส่วนตัวก็สงสัยอยู่ว่าการเกิดเหตุครั้งนี้มันเกิดจากนิสัยการขับรถโดยปกติหรือไม่ หรือมีอะไรทำให้รถน้องชายผมได้เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งจุดนั้นก็เป็นทางตรงมีรถวิ่งผ่านไปมาจำนวนมากประกอบกับเป็นกลางวัน ทัศนวิสัยการมองเห็นน่าจะดี น่าจะมีองค์ประกอบอย่างอื่นมีส่วนทำให้รถน้องชายของผมเกิดอุบัติเหตุได้

"ในฐานะพี่ชายใหญ่ของครอบครัว ต้องแสดงความเสียใจกับคู่กรณีที่สูญเสียไปอาจจะเป็นที่รักของครอบครัวคือ แก้วตาดวงใจเหมือนกับครอบครัวผม ก็ได้ซึ่งเป็นลูกคนสุดท้อง แต่เบื้องต้นได้ส่งพวงหรีดไปขอคารวะดวงวิญญาณ และก็เป็นการแสดงความเสียใจมีน้ำใจ ตระกูล ”ภูไชยแสง” ต้องขอกราบคารวะดวงวิญญาณและขอขมาดวงวิญญาณซึ่งเราก็มีส่วนผิดเป็นต้นเหตุและเขาก็มาร่วมชะตากรรมในเหตุการณ์เดียวกัน ซึ่งคุณป้าของฝ่ายคู่กรณีก็พูดดีมีเหตุผลว่า มันเป็นโชคชะตาฟ้าลิขิตที่ทำให้เวลานั้น จะต้องเกิดเหตุการณ์อันเลวร้ายในตรงนี้ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เราไม่คาดคิด หลังจากดูแลศพน้องและทำการเผาวันนี้ คือ 16 มิ.ย. โดยปกติต้องเก็บไว้ 3 วันสวด 3 วันถึงจะเผา แต่ที่นี่ทำไม่ได้เพราะติดปัญหาเรื่องโรคโควิด-19 อยากให้เสร็จอยากให้จบจะได้มีเวลาติดตามเรื่องคดีตรงนั้น" นายภูริทัต กล่าว

ส่วน นางจรูญรักษ์ พินาธุวงศ์ พี่สาวผู้ตาย กล่าวว่า ในฐานะพี่สาวต้องกล่าวขอโทษคู่กรณีและญาติๆ คู่กรณีที่เสียชีวิตทั้ง 2 ครอบครัว ก็ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ไม่อยากให้เกิดการสูญเสียใดๆ กับใครแต่ว่ามันก็เกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องกราบขอโทษและแสดงความเสียใจด้วยต่างฝ่ายต่างก็สูญเสีย อย่างไรต้องกราบขอโทษญาติๆ คู่กรณีอีกครั้งหนึ่งด้วย.