วันที่ 16 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครพนม ได้รายงานบรรยากาศวันเปิดเทอมสัปดาห์แรก ท่ามกลางสถานการณ์โควิดระบาด ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ปกครองที่ได้รับความเดือดร้อนจากภาวะเศรษฐกิจ ต่างประสบปัญหาค่าใช้จ่ายในช่วงเปิดภาคเรียน จึงจำเป็นต้องใช้บริการโรงรับจำนำหรือสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองนครพนม ซึ่งมียอดรับจำนำทะลุกว่าวันละ 2 ล้านบาท  โดยทางสถานธนานุบาล เทศบาลเมืองนครพนม ได้เตรียมวงเงินไว้รองรับการบริการกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งยังคงมีวงเงินเหลือกว่า 100 ล้านบาท และสามารถขยายวงเงินรับเพิ่มได้อีกหากไม่เพียงพอ

จากการตรวจสอบพบว่าส่วนใหญ่ มีประชาชน พ่อแม่ ผู้ปกครอง นำสิ่งของมีค่า เครื่องยนต์การเกษตร เครื่องมือช่าง เครื่องใช้ไฟฟ้า ทองคำรูปพรรณ รวมไปถึงเครื่องเงิน แม้กระทั่งขันโบราณ มูลค่าราคาประมาณ 1,000 บาทมาจำนำ เพื่อนำไปหมุนเวียนในช่วงเปิดภาคเรียน  ทั้งนี้ทางโรงรับจำนำเทศบาลเมืองนครพนม ได้วางแนวทางช่วยเหลือ ทั้งการขยายเวลาไถ่ถอนยาวถึง 4-5 เดือน รวมถึงลดดอกเบี้ย สำหรับยอดจำนำ ไม่เกิน 5,000 บาท โดยคิดดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 25 สตางค์ 

นายอุดร แก้วสุพรรณ ผู้จัดการสถานธนานุบาล เทศบาลเมืองนครพนม เปิดเผยว่า ในช่วงนี้เป็นช่วงเปิดเทอม ทำให้มีประชาชนพ่อแม่ผู้ปกครอง ต้องใช้จ่ายค่าเล่าเรียน รวมถึงค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ยิ่งสถานการณ์โควิดระบาด ส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายไม่เพียงพอ ทางโรงรับจำนำได้เตรียมพร้อมในการสำรองวงเงิน ไว้รับบริการหมุนเวียนมากกว่า 100 ล้านบาท  คาดว่าจะเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนในพื้นที่ 

นอกจากนี้ ยังได้มีการออกมาตรการช่วยเหลือลดดอกเบี้ยขยายเวลาไถ่ถอนจากปกติ 3 เดือน เพิ่มเป็น 4-5 เดือน และมีการลดดอกเบี้ยสำหรับผู้ที่จำนำยอดไม่เกิน 5,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 25 สตางค์ หากเกินคิดร้อยละ 1 บาท/เดือน  เชื่อว่าสามารถช่วยเหลือประชาชนได้พอสมควร  

“สำหรับสิ่งของมีค่าที่นำมาจำนำมากที่สุดคือทองคำรูปพรรณ ทางโรงรับจำนำให้ยอดสูงบาทละกว่า 20,000 บาท  เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชาชน  ส่วนใหญ่จะมีชาวบ้าน เกษตรกรนำสิ่งของมีค่ามาทุกรูปแบบ ทั้งเครื่องยนต์การเกษตร เครื่องใช้ไฟฟ้า  ไปจนถึงเครื่องเงินโบราณ เช่น ขันเงิน ทางโรงรับจำนำเรารับหมด โดยดูตามสภาพและมูลค่า จึงฝากถึงประชาชน ทางโรงรับจำนำพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ หากมีความจำเป็นสามารถนำสิ่งของมาติดต่อสอบถามเพื่อประเมินราคา หากสิ่งไหนที่มีมูลค่ารับได้ เรายินดีที่จะรับจำนำตามสภาพ และมูลค่าตามความเป็นจริง และพร้อมที่จะช่วยเหลือประชาชนให้ได้มากที่สุด” ผจก.สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองนครพนม กล่าว