เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 17 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายยุทธพงษ์ เชิงไกรยัง สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร ว่า ตอนนี้ได้มีชาวบ้านจำนวนมาก มีทั้งคนในและนอกพื้นที่ จำนวนมาก เดินทางมาหาหอยหลอด บริเวณหน้าอ่าวทุ่งคา-สวี ม.2 บ้านเชิงกระ อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งในหนึ่งปีจะมีเพียงครั้งเดียว ที่น้ำทะเลลด เพื่อนำไปรับประทานและนำไปขาย จึงเดินทางไปตรวจสอบ

จากการตรวจสอบพบว่ามีชาวบ้าน กว่า 100 คน สวมเสื้อผ้า ใส่หมวกเพื่อปิดคลุมร่างกายกันแดด พร้อมอุปกรณ์ ประกอบ ด้วยปูนแดง ไม้เรียวขนาดเล็ก ยาวประมาณ 10 ซม.ใช้สำหรับชุบปูนแดง เพื่อแหย่ใส่รูหอยหลอด แกลลอน ขนาด 20 ลิตร ผ่าเปิดข้างคล้ายกะบะ กึ่งนั่งกึ่งคลาน หาหอยหลอด กระจายอยู่ไปทั่วบริเวณสันดอนดินโคลนปนทราย กันอย่างสนุกสนาน

 

จากการสอบถามนายสุวัฒน์ ศิริมากุล อายุ 30 ปี กล่าวว่า ตนเองเป็นคนต่างพื้นที่ หลังจากที่ได้ทราบว่าในปีนี้มีหอยหลอดเป็นจำนวนมากในพื้นที่ตำบลเชิงกระ จึงได้ใช้ช่วงเวลาที่วางจากงานในสวน ชวนครอบครัวมาหากัน ซึ่งตนเองยอมรับไม่เคยหาหอยหลอด เป็นครั้งแรก ก็อย่างจะมาลองหาดู เพราะอย่างน้อยจะได้พักผ่อน ได้สนุกกับการหาหอยหลอดแล้ว ยังนำหอยที่หาได้ไปปรุงทำเป็นอาหารรับประทานอีกด้วย

น.ส.จิราพร แช่มดนตรี อายุ 36 ปี เป็นชาวบ้านที่มาหาหอยหลอดอยู่ทุกๆปี กล่าวว่า ในช่วงที่น้ำลง ตนเองก็จะนั่งเรือจากฝั่งเพื่อมาหาหอย ที่ดอนแห่งนี้เป็นประจำทุกปี ซึ่งบริเวณนี้นับว่ามีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรสัตว์น้ำมาก ไม่ว่า กุ้ง หอย ปู หรือ ปลา โดยเฉพาะหอย ตรงจะมีหอยหลากหลายชนิด ไม่ว่า หอยแครง หอยกัน หอยขาว และในช่วงนี้ หอยหลอด จะชุกชุมเป็นอย่างมาก และในแต่ละวันจะหาได้ประมาณวันละ10-15 กิโลกรัม ขายส่งราคา 70 ขายปลีกราคา 80 บาท ในตลาดราคาอยู่ประมาณ 110-120 บาท ซึ่งถ้าไม่ใช้ช่วงที่น้ำลดก็จะไปทำงานรับจ้างตัดปาล์ม การหาหอยหลอดนั้นถือได้ว่าเป็นอาชีพเสริมที่สร้างรายได้กับครอบครัวอีกช่องทางหนึ่งที่ไม่ต้องลงทุนอะไรมากมาย มีเพียงแค่ปูนกินหมาก ไม้เล็กๆ และถังสำหรับใส่หอย ใช้นิ้วมือกดกระแทกลงพื้นทราย แล้วสังเกต พบรูลักษณะคล้ายเลข 8 (สองรูติดกัน)ก็ใช้ไม้ที่มีปูนแดงแหย่ใส่ลงไป หอยหลอดก็จะโผล่ขึ้นมา

ด้านนายยุทธพงษ์ เชิงไกรยัง กล่าวว่า ผู้เฒ่าผู้แก่ในพื้นที่ได้เล่าให้ฟังว่าหอยหลอดนั้นได้มีมาหลายปีแล้ว และได้ห่างหายไปกว่า 30 - 20 ปี เพิ่งมามีให้เห็นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เนื่องจากระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์จึงทำให้เกิดหอยหลอดและหอยอื่นๆหลากหลายชนิด สิ่งที่ตามมาคือชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรสัตว์น้ำเหล่านี้ ตนเองในฐานะที่เป็นผู้นำชุมชนก็อยากจะเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวที่อยากจะมาเที่ยวชมความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเล หรือมาหาหอยหลอดได้ใช้วิธีการหาในวิธีธรรมชาติ โดยการใช้ปูนแดง ไม่ใช้ปูนขาวและไม่ใช้ยาเส้น และที่สำคัญ คุณมาเที่ยวชมความสวยงามและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรแห่งนี้แล้ว อยากให้ทุกคนที่เข้ามาช่วยกันดูแลรักษาและไม่ทิ้งขยะลงในทะเล เอาขยะลงมาแล้วก็ช่วยกันเอากลับขึ้นไปด้วย

นายยุทธพงษ์ เชิงไกรยัง กล่าวต่อว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานั้นไม่มีหอยหลอดให้ได้หา เพราะก่อนหน้านี้บริเวณดังกล่าวมีชาวบ้านมาหาหอยหลอด โดยที่คนจากต่างถิ่น ต่างจังหวัดมาหาและใช้ปูนขาวโรยทำให้หอยตัวเล็กตัวน้อยตายจนหมด ทำให้ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่นและชาวบ้านในพื้นที่ ได้มีมติร่วมกันที่จะอนุรักษ์ควบคู่ไปกับการเฝ้าระวัง ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการหาหอยอย่างทำลาย โดยมีเงื่อนไขห้ามใช้ปูนขาว ห้ามจับสัตว์ตัวที่ไม่ได้ขนาด จนมาวันนี้ ทรัพยากรสัตว์น้ำได้ฟื้นกลับมาอุดมสมบูรณ์อย่างครั้ง

หากใครอยากพักผ่อน อยู่กับธรรมชาติ หรืออยากพาครอบครัวมาหาหอยหลอด ทางชุมชนบ้านเชิงกระแห่งนี้ยินดีตอนรับเป็นอย่างยิ่ง เทศกาลหาหอยหลอด 1 ปีมีเพียง 1 ครั้ง ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนมิถุนายน ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์กับท่องทะเลอ่าวทุ่งคา สวี กับคำกล่าวที่ว่ามามือเปล่าก็อิ่มได้