เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 64  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณชั้น 1 ศาลากลาง  จ.ศรีสะเกษ อ.เมือง  จ.ศรีสะเกษ   พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ  วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา  เจ้าคณะ อ.ภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายวิทยา วิรารัตน์ ประธานสภาวัฒนธรรม จ.ศรีสะเกษ นายประหยัด ถิลา วัฒนธรรม จ.ศรีสะเกษ นายทิวา  รุ้งแก้ว ประธานชมรมคนรักในหลวง  จ.ศรีสะเกษ และคณะกรรมการตามโครงการ ปันน้ำใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน ด้วยพลังบวร จ.ศรีสะเกษ ได้นำเอาหน้ากากอนามัย  จำนวน 40 กล่อง  เจลแอลกอฮอล์ ขนาด 5 ลิตร จำนวน 50 แกลลอน เจลแอลกอฮอล์ ขนาด  500 ml จำนวน 24 ขวด    Face shield  จำนวน 50 อัน น้ำดื่มแบบขวดตราวิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา จำนวน 100 โหล และน้ำดื่มแบบถ้วย จำนวน 50 ลัง  นำเอาไปมอบให้กับ นายวัฒนา พุฒิชาติ  ผวจ.ศรีสะเกษ  เพื่อให้นำเอาสิ่งของเครื่องใช้เหล่านี้ไปแจกจ่ายให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ตาม รพ.และ รพ.สต.รวมทั้งประชาชนทั่วไปเพื่อจะได้ใช้ในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้

พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ  วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา  เจ้าคณะ  อ.ภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า  ขณะนี้ จ.ศรีสะเกษ กำลังมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19  มีประชาชนติดเชื้อแล้วกว่า 400 คน อาตมาภาพและคณะเห็นว่า เพื่อเป็นการให้การสนับสนุนและร่วมในการเป็นส่วนหนึ่งในการต่อต้านการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ดังนั้น จึงได้นำเอาสิ่งของทั้งหมดมามอบให้ ผวจ.ศรีสะเกษ เพื่อจะได้นำเอาไปใช้ในการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์และเพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนตามหมู่บ้านต่าง ๆ ได้ใช้ประโยชน์ต่อไป  การที่รัฐบาลได้มีนโยบายว่า อีก 120 วัน  จะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกนั้น อาตมาภาพเห็นด้วยกับรัฐบาลที่มีนโยบายดังกล่าวออกมาเพราะว่าจะได้เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย ในส่วนของวัดไพรพัฒนาได้มีการปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดทำให้ไม่มีผู้ใดติดเชื้อโควิด-19 แต่อย่างใด และในวันที่ 27 มิ.ย. 64 ที่จะถึงนี้ ตลาดวัฒนธรรมบายตึ๊กเจีย  บ้านไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์  จ.ศรีสะเกษ จะเปิดตลาดขายส่งสินค้า 2 ชาติไทย-กัมพูชา เป็นตลาดขายส่งสินค้าใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งในเขตอีสานใต้ ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยวตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา  ทางด้านจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ซึ่งเป็นจุดผ่านแดนถาวรเพียงแห่งเดียวของ จ.ศรีสะเกษ