"ปลัดหญิง" เมืองประจวบฯ ปอดติดเชื้อเสียชีวิต ได้รับน้ำหลวงอาบศพพระราชทาน
18 มิ.ย. 2564, 07:43
เวลา 15.00 น.วันที่ 17 มิ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการจัดเตรียมพิธีสวดอภิธรรมศพ และการประกอบพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ให้กับศพของนางสาว วรรณี คงทอง ปลัดอําเภอเมืองประจวบ ฝ่ายทะเบียนราษฎร์ ที่ได้เสียชีวิตลงด้วยอาการปอดติดเชื้อรุนแรง ตับและไตวายเฉียบพลัน แต่ไม่ใช่สาเหตุจาก covid 19 เนื่องจากตรวจไม่พบเชื้อ แต่ก่อนหน้านี้เคยติดเชื้อโควิด-19 จากการลงพื้นที่ออกให้บริการทำบัตรประชาชนให้กับผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุตามบ้าน และรักษาหายแล้ว ที่บริเวณศาลา 3 วัดเกาะหลัก พระอารามหลวง อำเภอเมืองประจวบ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้าอาลัย ของบรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนร่วมทำงานในอำเภอ ซึ่งทยอยเดินทางมาร่วมรดน้ำศพและแสดงความอาลัย โดยกำหนดการสวดพระอภิธรรมศพ เริ่มวันที่ 17 มิถุนายน 2564 - 21 มิถุนายน 2564 เวลา 19.00 น.รวม 5 วัน
นายศราวุธ จิระพิทักษ์กุล นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า น.ส.วรรณี ก่อนหน้าติดเชื้อโควิด ได้พร้อมลูกจ้างในหน่วยงาน ลงพื้นที่ไปพบชาวบ้านเพื่อบริการทำบัตรประชาชนให้ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุให้ได้รับสิทธิเงินเยียวยาจากรัฐบาล ต่อมาพบว่า น.ส.วรรณีและลูกจ้าง 2 คนในโครงการแผนกงานทะเบียนติดเชื้อโควิด เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลกระทั่งรักษาหายตรวจไม่พบเชื้อ จึงได้สั่งให้กักตัวเองที่บ้าน 14 วัน ก่อนจะมาทำงานตามปรกติ จากนั้นล้มป่วยและเสียชีวิต โดยวันนี้จะได้มีพิธีน้ำหลวงพระราชทาน
นายประทีบ คงทอง อายุ 55 ปี น้องชายของปลัดหญิง น.ส.วรรณี คงทอง อายุ 58 ปี ชาวนครศรีธรรมราช กล่าวว่า สุขภาพปกติแข็งแรงดี ไม่ได้เป็นโรคอะไร เพียงแต่อายุมาก ช่วงที่ติดโควิดเมื่อเดือนเมษายน พี่สาวไม่ได้บอกให้ที่บ้านรับทราบ เพราะกลัวว่าแม่ซึ่งมีอายุแล้วจะเครียด ส่วนในการรักษารอบหลัง ทราบจากแพทย์ว่าไม่พบเชื้อโควิด และได้รับการรักษาอยู่ในห้องรวมทางโรงพยาบาลได้รักษาตามอาการ คือ เจ็บหน้าอก หลังการรักษามีข้อสันนิฐานว่า อาจเป็นอาการโรคใหม่ หรือ มีผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น เป็น long term covid หรือ ผลจากโควิดในระยะยาว เป็นการเสียชีวิตตามธรรมชาติ ปอดติดเชื้อ ร่างกายของพี่สาวทนไม่ไหว เนื่องจากปอดถูกทำลายไปมาก ทางญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต
นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า การรักษานานเกือบ 3 สัปดาห์ที่รักษาผู้ป่วยมีอาการหนักที่สุด 3 วันก่อนเสียชีวิต โดยมีไตวายเฉียบพลัน ต้องฟอกเลือดที่ห้องไอซียู จากนั้นเจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างในเสมหะตรวจซ้ำ 2 ครั้ง ไม่พบเชื้อโควิด เก็บตัวอย่างเลือดเพื่อตรวจหาเชื้อไวรัส ทั้ง 34 ตัวไม่พบเชื้อ แต่ในกระแสเลือดพบแบคทีเรีย มีการให้ยารักษาแต่ร่างกายผู้ป่วยต้านทานไม่ไหว เนื่องจากเชื้อจุลินทรีย์ลุกลามไปตามกระแสเลือดที่ไตและตับ ยอมรับว่าในระดับโลกยังไม่พบเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ที่ผ่านมาผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด เมื่อรักษาหายอาจมีอาการทางปอด หรือปอดจะไม่แข็งแรงเหมือนเดิม 100% แต่ผู้ป่วยรายนี้ ไม่มีอาการบ่งชี้ดังกล่าว ยืนยันว่าอาการที่เสียชีวิตไม่ได้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 หากต้องการหาสาเหตุต้องผ่าชันสูตร เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญทางด้านปอดเป็นผู้ตรวจสอบและยกเป็นกรณีศึกษา แต่ญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต ไม่ประสงค์ให้นำร่างไปผ่าพิสูจน์
มีรายงานว่า น.ส.วรรณี มีประวัติติดเชื้อโควิด 19 จากลูกจ้างที่ทำงานในแผนกเดียวกัน ขณะลงพื้นที่ไปพบชาวบ้านเพื่อบริการทำบัตรประชาชนให้ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุให้ได้รับสิทธิเงินเยียวยาจากรัฐบาล โดยติดเชื้อจากผู้ป่วยชาย อายุ 23 ปี ตามไทม์ไลน์ที่ 361 ซึ่งไปดื่มกินในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ โดยสัมผัสกับผู้ติดเชื้อต่อเนื่องจากมายาผับ คลัสเตอร์ใหญ่ที่ อ.หัวหิน