เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 16 ส.ค. 62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองประจวบ ได้ดำเนินการเข้าตรวจสอบสภาพพังเสียหายของช้างรูปปั้นคู่ที่ติดตั้งไว้ ณ บริเวณรั้วกำแพงของศาลเจ้าหลักเมืองประจวบ ริมถนนสละชีพ เขตเทศบาล อำเภอเมืองประจวบ จังหวัดประจวบ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับศาลากลางจังหวัดประจวบ และอยู่ห่างจากโรงพัก สภ.เมืองประจวบ ประมาณ 200-300 เมตร ภายหลังได้รับแจ้งจาก นายนพดล คูหาทอง อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นคณะกรรมการมูลนิธิศาลหลักเมืองประจวบ และเป็นผู้ดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยภายในศาลเจ้าแห่งนี้ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองชาวประจวบมายาวนาน ถึง 26 ปี และมีประชาชนจากทั่วสารทิศรวมถึงนักท่องเที่ยวได้แวะเวียนมาสักการะกราบไหว้ เพื่อความเป็นสิริมงคลทุกวัน

ซึ่งจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าช้างซึ่งทำจากปูนปั้น จำนวน 2 ตัว ถูกมือดีมาทุบจนงวงหักและใบหูแตกพังเสียหาย จำนวน 2 ตัว นอกจากนี้ยังมีไฟสปอร์ตไลท์ LED สำหรับส่องป้ายพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงรัชกาลที่ 10 ถูกทุบจนแตกละเอียดพังเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้อีกจำนวน 2 ดวง ซึ่งสร้างความแปลกใจให้กับผู้ที่ผ่านไป-มา และคณะกรรมการของมูลนิธิศาลหลักเมืองแห่งนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเหตุลักษณะเช่นนี้มาก่อน และคิดว่า คงไม่ใช่ฝีมือของลิงแสมเขาช่องกระจกมาทุบทำลายทรัพย์สินของศาลหลักเมืองอย่างแน่นอน ซึ่งดูจากสภาพพังเสียหายน่าจะเกิดจากน้ำมือของมนุษย์

นายนพดล คูหาทอง เปิดเผยว่า ตนได้มาดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของศาลหลักเมืองประจวบแห่งนี้ทุกวัน โดยที่ผ่านมา เพิ่งจะจัดงานพิธีบวงสรวงองค์จตุโชค ครบรอบ 26 ปี จึงได้มาดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อย และพบเห็นว่าช้างรูปปั้นและไฟส่องป้ายพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวง รัชกาลที่ 10 ถูกมือดีมาทุบทำลายจนแตกละเอียด และคาดว่าอาจจะก่อเหตุช่วงเวลากลางดึกของเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยหลังจากนี้ตนจะเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองประจวบ เผื่อจะสามารถติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้ และหลังจากนั้นจะนำสปอร์ตไลท์ดวงใหม่มาติดตั้งส่องพระบรมฉายาลักษณ์ให้สว่างไสวดังเดิม ส่วนช้างรูปปั้นที่พังเสียหายก็จะต้องยกออกไปไว้ที่อื่น เนื่องจากพังเสียหาย และไม่สวยงามเหมือนเดิมแล้ว