เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 16 สิงหาคม 2562 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อม นายชัยสิทธิ์ ตระกูลศิริพานิชย์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสุราษฎร์ธานี ว่าที่ร้อยตรี กิตติภพ รอดดอน นายอำเภอเกาะสมุย พ.ต.อ.บริบูรณ์ อยู่สุขสมบูรณ์ ผกก.สภ.เกาะสมุย นายเมธี บุญสุข หัวหน้าหน่วยจัดการต้นน้ำเกาะสมุย นายสมคิด เจียวก๊ก หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สฎ.6 เกาะสมุย ร.อ.อดุลย์ พรหมบุตร หน.ชป.กอ.รมน.ภาค 4 พื้นที่เกาะสมุย นายพิสิทธิ์ พรหมจันทร์ คณะกรรมการตรวจสอบพื้นที่ป่า ตำบลแม่น้ำ ได้เดินทางขึ้นไปยังภูเขาบ้านแม่น้ำ หมู่ 3 ตำบลแม่น้ำ อำเภอเกาะสมุย เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง จากการร้องเรียนว่า มีการลักลอบขุดภูเขา ด้วยการนำเครื่องจักรรถเเบ็คโฮ ขึ้นไปเปิดหน้าดิน และตัดโค่นต้นไม้ขนาดใหญ่ ในป่าต้นน้ำ บนภูเขาบ้านแม่น้ำ

 

 

ซึ่งเมื่อ นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางเข้าถึงพื้นที่ ที่มีการบุกรุกป่า ถึงกับอึ้ง เมื่อพบว่าในพื้นที่ดังกล่าว มีการลักลอบเปิดหน้าดิน ด้วยเครื่องจักร และตัดโค่นต้นไม้ขนาดใหญ่จำนวนมาก พร้อมแผ้วถางทับถม ลำรางคลองบางเหนียง ซึ่งเป็นลำรางคลองป่าต้นน้ำ ในตำบลแม่น้ำ ภายหลังตรวจสอบแล้ว พบว่า มีการขุดขยายหน้าดิน เพื่อปรับพื้นที่ ทำให้พื้นที่บนภูเขาสุ่มเสี่ยง ต่อการเกิดดินสไลด์ ลงไปยังพื้นที่ด้านล่างที่มีประชาชนอาศัย อาจเกิดอันตรายต่อหมู่บ้านและชุมชนได้

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า การตรวจสอบในครั้งนี้ “ทางคนที่บุกตัดไม้ อ้างว่า มีที่ สค.1 ครอบครองอยู่ตรงไหน และการที่เข้ามาบุกรุกตัดต้นไม้ และถางทางทำถนน เพื่อลงไปชมวิวยังจุดข้างล่าง ในพื้นที่ดินแปลงนี้ ว่ามีเอกสารสิทธิ์ที่ดินถูกต้องจริงไหม ซึ่งในเบื้องต้น จากการตรวจสอบพบว่าทรัพยากรถูกทำลายเสียหายเป็นบริเวณกว้าง โดยที่คนตัดบุกรุกมาอ้างว่ามีหลักฐาน เป็นเจ้าของที่ดิน สค.1 ก็ขอให้นำเอกสารมายืนยัน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ ที่ดินจะได้ตรวจสอบให้อย่างละเอียด และดำเนินการตามข้อกฎหมาย อย่างเฉียบขาด หากพบว่าที่ดินแปลงนี้ไม่เป็นไปตามที่อ้าง ทางเจ้าพนักงานก็จะดำเนินคดีกับผู้ที่บุกรุกในสถานหนักเช่นกัน

ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ยังกล่าวอีกว่า รู้สึกเสียดายกับต้นไม้ขนาดใหญ่ และพื้นที่ที่ภูเขาถูกทำลาย ทำให้ทรัพยากรที่สวยงาม ของเกาะสมุย มาถูกทำลายแบบนี้ ซึ่งตนได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบด้วยตัวเองแทบไม่เชื่อสายตา ต่อไปนี้ ก็ต้องทบทวน พร้อมกำชับให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้ ให้ถึงที่สุด ซึ่งหน่วยงานที่ว่านี้ ประกอบไปด้วย ฝ่ายปกครอง ตำรวจ และ กอ รมน.ภาค 4 ป่าไม้ ที่ดิน เจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อตรวจสอบเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด

พร้อมกันนี้ หากพบว่ามีหน่วยงานรัฐ เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในการอำนวยความสะดวก หรือแสวงหาผลประโยชน์ กับกลุ่มผู้บุกรุก จะดำเนินคดีโดยไม่มีข้อยกเว้น ตามกฎหมายทุกราย เนื่องจากทุกคนอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย

จึงอยากฝากไปถึง พี่น้องประชาชน เจ้าของที่ดิน ว่าธรรมชาติ ที่สร้างทรัพยากรขึ้นมาเพื่อให้ความอุดมสมบูรณ์ ขึ้นมา ต้องใช้เวลา และจุดที่เป็นจุดป่าต้นน้ำ ต้องขอความร่วมมือว่าอย่าได้ทำลาย หากจะทำอะไรในพื้นที่ ที่มีความสุ่มเสี่ยง กับทรัพยากร ก็ขอให้ปรึกษากับทางเจ้าหน้าที่ เพื่อขอคำปรึกษา อย่าทำด้วยการพลการ และควรอนุรักษ์เอาไว้ อย่าเห็นแต่ผลประโยชน์

ซึ่งในการตรวจสอบพื้นที่ในครั้งนี้ ได้เห็นแล้วว่า มีการตั้งใจในการบุกรุกทำลายป่าต้นน้ำ ซึ่งตนยอมไม่ได้ ต้องติดตามตรวจสอบคนที่ทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ภายในเร็วๆ นี้ และจะดำเนินการตรวจสอบที่ดิน บนภูเขาบ้านแม่น้ำอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีข้อมูลการร้องเรียนว่ายังมีอีกหลายแปลงที่มีการบุกรุก"  ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าว