เชียงใหม่ เจอคลัสเตอร์สถาบันกวดวิชา หลังเพิ่งเปิดเรียน
19 มิ.ย. 2564, 20:08
วันนี้ (19 มิ.ย. 64) ที่ศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ นายกนก ศรีวิชัยนันท์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมแถลงสถานการณ์การระบาดของโรค Covid-19 ระลอกเดือนเมษายนจังหวัดเชียงใหม่ประจำวัน
ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า วันนี้จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 ราย ซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้ติดเชื้อ CM4204 ที่เป็นติวเตอร์สถาบันกวดวิชา ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเป็นจำนวน 4,126 ราย รักษาหายแล้ว 4,079 ราย ผู้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทุกประเภท จำนวน 21 ราย แยกเป็นโรงพยาบาลรัฐ 17 ราย โรงพยาบาลเอกชน 4 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมยังอยู่ที่ 26 ราย ขณะที่กลุ่มผู้ติดเชื้อที่ยังรักษาตัวอยู่นั้น แยกเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย (สีเขียว) 16 ราย อาการปานกลาง (สีเหลือง) 4 ราย และผู้ป่วยอาการค่อนข้างหนัก (สีส้ม) 1 ราย
การตรวจผู้สัมผัสและผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เมื่อวานนี้ (18 มิ.ย. 64) ได้มีการตรวจหาเชื้อ จำนวน 756 ราย พบเชื้อ 3 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.4 ในด้านความเสี่ยง ยังถือว่าจังหวัดเชียงใหม่ยังมีความเสี่ยงอยู่มาก เนื่องจากเป็นจังหวัดท่องเที่ยว มีการเคลื่อนย้ายของประชากรมาก ซึ่งจะพบว่ามีการนำเข้าเชื้อโควิดจากพื้นที่อื่นตลอดมา และต่อเนื่องถึงการสัมผัสในครอบครัวและในสถานที่ทำงาน
ส่วนการตรวจค้นหาเชิงรุก วันนี้ทีมตรวจคัดกรองเชิงรุกของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้ออกตรวจกลุ่มเสี่ยงที่วิทยาลัยเทคนิคเชียงใหม่ทั้งครูและนักศึกษาแผนกช่างกล จำนวน 97 ราย โดยผลจะทราบในวันพรุ่งนี้ และทีมตรวจคัดกรองของอำเภอดอยเต่า ได้ทำการออกตรวจที่บ้านโปงทุ่ง อำเภอดอยเต่า อีก 22 ราย ซึ่งผลจะออกในวันพรุ่งนี้เช่นกัน
ส่วนคลัสเตอร์เดิมต่าง ๆ ยังคงเหลือคลัสเตอร์ที่เฝ้าระวัง 3 คลัสเตอร์ และวันนี้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ประกาศคลัสเตอร์ใหม่ คือ คลัสเตอร์สถาบันกวดวิชา Learn Si’r (เลิร์น เซอร์) เนื่องจากมีการพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น และมีแนวโน้มจะแพร่ขยายออกไปอีก เนื่องจากสัมพันธ์กับคัสเตอร์ที่จังหวัดแพร่ โดยจังหวัดเชียงใหม่นั้น พบผู้ติดเชื้อจากติวเตอร์ CM4204 แล้ว 2 ราย ส่วนนักเรียนที่เข้าเรียนกับติวเตอร์รายนี้ 7 ราย พบผลการตรวจครั้งแรกเป็นลบ แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดต่อไป
โดยไทม์ไลน์ล่าสุดของ ผู้ติดเชื้อ CM4206 รายเมื่อวานนี้พบว่า มีประวัติไทม์ไลน์เพิ่มขึ้น โดยไปร่วมรับประทานอาหารกับผู้ติดเชื้อ CM4204 หลายแห่งด้วยกัน ส่วนผู้ติดเชื้อรายล่าสุดของคลัสเตอร์นี้ คือ รหัส CM 4209 ซึ่งเป็นพี่ชายของ CM4206 เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง
ทำงานพาร์ทไทม์ร้านอาหารญี่ปุ่น HANAWA วันที่ 10 มิถุนายน เริ่มมีอาการมีไข้ ไอ เจ็บคอ และร่วมรับประทานอาหารกับ CM4204 และ CM4206 วันที่ 11 มิถุนายน ไปตรวจโรคคออักเสบที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง วันที่ 12 มิถุนายน ไปเที่ยววัดน้ำตกแม่กลาง วันที่ 13 มิถุนายน อยู่บ้านกับน้องชาย วันที่ 14-16 มิถุนายน ไปเรียนตามปกติ และในวันที่ 18 มิถุนายน ได้เข้ารับการตรวจ เนื่องจากพบว่าน้องชายติดเชื้อโควิด-19
ส่วนรายที่สอง CM 4207 เป็นเพศชาย อายุ 45 ปี ภูมิลำเนา อยู่ที่อำเภอสันทราย อาชีพซ่อมรถ เข้าตรวจเนื่องจากจะเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ทั้งนี้ยังหาแหล่งสัมผัสของโรคไม่ได้ และให้การว่าวันที่ 1-13 มิถุนายน ไม่ได้เดินทางไปไหน โดยอยู่ที่บ้าน ไปตลาด ไปร้านค้าสะดวกซื้อ (เซเว่น) และซ่อมมอเตอร์ไซค์อยู่ที่บ้าน สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา แต่เมื่อตรวจวันที่ 18 มิถุนายน พบผลเป็นบวก
ผู้ติดเชื้อรายสุดท้าย เป็นเพศหญิง รหัส CM4208 อายุ 38 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอสันทราย อาชีพเป็นสถาปนิก โดยวันที่ 2 มิถุนายน เดินทางไปทำงานที่กรุงเทพฯ เพื่อนำงานส่งลูกค้า จากนั้นได้เดินทางไปสยามพารากอน วันที่ 6 มิถุนายน เดินทางกลับเชียงใหม่ วันที่ 7 มิถุนายน เริ่มมีอาการไอเล็กน้อย หนาวสั่น จึงกักตัวอยู่ที่บ้าน โดยวันที่ 18 มิถุนายน ได้รับคำแนะนำจากญาติให้ไปตรวจหาเชื้อที่คณะเทคนิคการแพทย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผลตรวจพบเชื้อเป็นบวก ซึ่งผู้ป่วยรายนี้ถือเป็นเคสนำเข้าจากต่างจังหวัดและไม่ได้ลงทะเบียน CM-CHANA เมื่อกลับเข้าพื้นที่
ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่ ขอความร่วมมือผู้ติดเชื้อต้องไม่ปกปิดข้อมูลไทม์ไลน์หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่างๆ เพื่อการสอบสวนโรคจะได้ติดตามเส้นทางค้นหาแหล่งโรค และควบคุมป้องกันโรคได้ทันแวลา ซึ่งหากมีการปกปิดข้อมูลจะถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ส่วนผู้ที่เดินทางเข้ามาจากพื้นที่เสี่ยงต้องลงทะเบียน CM-CHANA และกรอกข้อมูล พร้อมทั้งรับคำแนะนำการกักตัวเอง 14 วัน หากไม่ปฏิบัติตาม รวมถึงผู้ที่ให้ที่พักอาศัยไม่ได้มีการแจ้งเตือน จะถือว่ามีความผิดต่อคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ฉบับที่ 61/2564 ซึ่งจะถูกดำเนินคดีต่อไป