เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



จนท.รวบ "ชาวเมียนมา" หลบหนีเข้าไทยเพิ่มทุกวัน ขณะประท้วงการยึดอำนาจต่อเนื่อง


20 มิ.ย. 2564, 10:10



จนท.รวบ "ชาวเมียนมา" หลบหนีเข้าไทยเพิ่มทุกวัน ขณะประท้วงการยึดอำนาจต่อเนื่อง




เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาที่ 19 มิถุนายน 64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายสาวิตร  เจียมจิระพร นายอำเภอไทรโยค ได้ออกตรวจจับแรงงานหลบหนีคนเข้าเมืองสัญชาติพม่า ได้ จำนวน 12 คน แยกเป็นชาย 3 หญิง 9 คน และได้ตรวจจับคนขับรถนำพาแรงงานต่างด้าวดังกล่าว ได้ 1 คน ซึ่งเป็นคนไทย ชื่อ นาย ปิยวัฒน์ อายุ 21 ปี พร้อมโทรศัพท์ มือถือ จำนวน 14 เครื่อง ณ ถนนภายในหมู่บ้าน บ้านท่าข้ามสุด หมู่ที่ 8 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี

 

จากการตรวจสอบในครั้งนี้โดยนายอำเภอไทรโยค ได้บูรณาการร่วมกับ หน่วยงาน จนท.ตำรวจ สภ.ไทรโยค / ตชด. ที่ 136/จนท.ทหารดูแลการฝึกพื้นที่ พื้นที่ 1 (ห้วยน้ำขาว) /น.ส. ธัญยรัชต์ ธรรมอริยนันท์ปลัดอำเภอ อ.ไทรโยค/สมาชิก อส อ ไทรโยค ที่ 7 / พร้อมผู้นำท้องถิ่นประกอบด้วย ผู้ใหญ่ นิมิตร เมฆจันฉาย หมู่ที่ 5 ต.ศรีมงคล /ผู้ใหญ่ไล้เฮง แซ่ลิ้ม หมู่ที่ 4 ต.ศรีมงคล/ผู้ใหญ่ มาลัย กำปั่นทอง หมู่ที่ 8 / และผู้ช่วยฯ หมู่ที่ 5 ต.ศรีมงคล / แพทย์ประจำ ต.ศรีมงคล  ได้ดำเนินการจับรถยนต์กระบะ 1 คัน สีบรอนซอหมายเลขทะเบียน บย 2354 กาญจนบุรี  ซึ่งมีนาย ปิยวัฒน์ สมบูรณ์ เป็นคนขับรถ ได้ขับรถยนต์กระบะมาแบบผิดสังเกตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ / ทหาร จึงได้เรียกตรวจค้น พบมีอาการพิรุธหลายอย่าง จึงได้ทำการตรวจค้นภายในในรถยนต์ พบโทรศัพท์มือถือถึง จำนวน 14 เครื่อง

 



จึงนำมาทำสอบสวนเพื่อขยายผล และได้กระจายกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อปูพรมลาดตระเวนค้นหาแรงงานต่างด้าวที่คาดว่าหลบหนีในพื้นที่บริเวณใกล้เคียง จนในที่สุดได้พบแรงงานต่างด้าวเดินไปหลบหนีในป่ามันสำปะหลังจำนวน 12 คน และหลบหนีหายไปอีก 2 คน เจ้าหน้าที่ได้ตามค้นหา ก่อนนำแรงงานที่จับได้ก็นำส่งพนักงานสอบสวนตำรวจ สภ.ไทรโยค เพื่อดำเนินคดีต่อไป 

 

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจวัดไข้แรงงานต่างด้าวดังกล่าว ตามมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อโรคไวรัส โควิด 19 ปรากฏว่า ไม่พบมีไข้อุณหภูมิสูงเกิน 37.5 แต่อย่างใด โดยการจับกุมในครั้งนี้ ได้รับแจ้งจากสายข่าวทหารชุดลาดตระเวนเฉพาะกิจลาดหญ้า ว่ามีกลุ่มแรงงานเมียนมา จำนวนหนึ่งเดินทางเข้ามายังพื้นที่หมู่ที่ 8 ตำบลศรีมงคล อำเภอไทรโยค ทางอำเภอไทรโยค จึงได้ตั้งด่านตรวจสกัดกลุ่มแรงงานจนจับได้ดังกล่าว

 

สำหรับในพื้นที่ชายแดนฝั่งตรงข้ามบ้านพระเจดีย์อำเภอสังขละบุรี ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหารเมียนมา และแสดงอาริยะขัดขืนเชิงสัญลักษณ์ด้วยการชู สามนิ้วมี จำนวน ประมาณ 100 คน โดยประกอบไปด้วย ประชาชน จากหมู่บ้านช่องส่ง , แม่กะสะ และหมู่บ้านใกล้เคียง ได้เข้าร่วมเดินขบวนกับกลุ่มผู้ประท้วงเดินขบวนเพื่อขับไล่ พล.อ. อาวุโส มิ้นอ่องไหล่ และการแสดงอาริยะขัดขืน ด้วยกันแสดงเชิงสัญลักษณ์ด้วยการชู

 

 

 


โดยทั้งหมดได้ร่วมตัว ณ บริเวณ บ้านสะพานช่องส่ง  MT 256019 แล้วได้เดินขบวนจากสะพานช่องส่ง ไปยัง จุดตรวจ กกล.KNLA.PC พัน 904 และได้ทำกิจกรรมแสดงเชิงสัญลักษณ์ในบริเวณ บ้านสะพานช่องส่ง  เพื่อเรียกร้องให้ล่อยตัว นางซิมมานอู ถูก จนท.ทมม จับกุมเมื่อวันที่ 14 พ.ค.2564 และเพื่อต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา และไม่ให้กองทัพเมียนมา เข้ามาปกครองประเทศ โดยขอให้มอบอำนาจคืนให้แก่ ประชาชน และให้ อูวินมิ้น ประธานาธิบดีเมียนมา และนางอองซานซูจี ฯ กลับมาบริหารประเทศเหมือนเดิม และ ในวันที่ 19 มิ.ย.64 ของทุกปีเป็นวันเกิด นาง อ่องซานซูจี โดยปีนี้ นางอ่องซานซูจี มีอายุครบรอบ 76 ปี โดยเรียกร้องให้ทางการเมียนมา ปล่อยตัว นางอ่องซาน ซูจี เป็นอิสระ โดยใช้เวลาทำกิจกรรมประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมจึงได้ทำการยุติการชุมนุม โดยการแสดงอยู่ในเขตพื้นที่ อ.พญาตองซู และยังไม่มีการรายงานการจับแกนนำของกลุ่มผู้ชุมนุมฯแต่อย่างใด

โดยการออกไปชุมนุมแสดงการเรียกร้องในครั้งนี้ประกอบด้วย

1.2 สถานการณ์: สถานการณ์ปกติเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและไม่มีการใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุมแต่อย่างใด และไม่มีการปรากฏตัวของ ทมม.และ กกล.BGF  

 1.3 ฝ่ายรัฐบาล :  ไม่มีการเคลื่อนไหวของ ทมม.,กกล.BGF และจนท.ตำรวจ อ.พญาตองซู

 1.4 แนวโน้มสถานณ์การณ์ : กลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหารเมียนมา และแสดงเชิงสัญลักษณ์ด้วยการชู สามนิ้ว มีการร่วมตัวเพื่อเดินขบวนประท้วงทุกวันโดยจุดประสงค์ดังนี้

1. เพื่อแสดงจุดยืนว่าประชาชนไม่สนับสนุนการทำรัฐประหารของ พล.อ(อาวุโส) มินอ่องหล่าย                           

2. ต้องการให้ยกเลิกรัฐธรรมนูณปี 2008

3. ต้องการให้มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย

4. ต้องการเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักการเมืองที่ถูกจับกุมทุกคน

5. ในเขตพื้นที่ อ.พญาตองซู ยังไม่มีการรายงานการจับแกนนำของกลุ่มผู้ชุมนุมฯแต่อย่างใด

 

 

 

 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.