วันที่ 21 มิ.ย.2564 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายโดม อายุ 59 ปี ชาว จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นศิลปินสานไม้ไผ่ 1 เดียวในพื้นที่ จ.นราธิวาส โดยใช้พื้นที่หน้าบ้านพักสร้างเป็นโรงเรือนในการสานไม้ไผ่เป็นรูปสัตว์ต่างๆ ที่มีขนาดใหญ่ตามความต้องการของผู้ว่าจ้าง จากพื้นที่จังหวัดต่างๆ ในประเทศ โดยยึดอาชีพดังกล่าวมานานกว่า 20 ปี แถมงานศิลปะดังกล่าวยังสามารถสร้างอาชีพสร้างรายได้ในกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

โดยผลงานสานไม้ไผ่ที่วางตระหง่านอยู่ภายในโรงเรือนหน้าบ้านพัก กำลังขึ้นรูปด้วยไม้ไผ่เป็นรูปไดโนเสาร์อุ้มไข่ ซึ่งมีขนาด 4.50 เมตร ยาว 7 เมตร แล้วเสร็จไปแล้วประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ ที่มีความประณีตสวยงามขึ้นรูปด้วยไม้ไผ่ตลอดทั้งตัว โดยเน้นถึงรูปลักษณ์ของกล้ามเนื้อแต่ละส่วนเสมือนจริง

ซึ่งนายโดม ได้อธิบายและแสดงขั้นตอนต่างๆ การสานไม้ไผ่เป็นรูปไดโนเสาร์ ที่มีขั้นตอนไม่สลับสับซ้อนมากนัก ด้วยการนำไม้ไผ่ที่สั่งซื้อจากชาวบ้านซึ่งมีขนาดยาว 6 เมตร ตกลำละ 25 บาท ไปเข้าเครื่องผ่าไม้ไผ่ซึ่งประดิษฐ์เอง เมื่อได้ตามขนาดที่ต้องการ นำไม้ไผ่ไปแช่น้ำยาเพื่อทำลายอาหารปลวก 7 วัน เมื่อได้นำไม้ไผ่มาตากให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นเรานำเหล็กเส้นมาตัดตามขนาดที่ต้องการ ขึ้นเป็นรูปโครงสร้างของสัตว์ด้วยการใช้เครื่องเชื่อมไฟฟ้ามาอ๊อกให้ติดกัน จากนั้นนำไม้ไผ่ที่ผ่านการแช่น้ำยาลำลายปลวกมาขึ้นรูปตามโครงสร้าง ทำไปในลักษณะนี้จำนวน 3 ชั้น ด้วยการใช้เครื่องอัดลมยิงตะปูและแม๊กซ์ ในการเก็บรูปทรงของสัตว์ให้เสมือนจริง

เมื่อได้รูปทรงของสัตว์ที่ต้องการตลอดทั้งตัวแล้ว ใช้แลคเกอร์ทาไม้ทาชโลมไม้ไผ่ที่สานเป็นรูปสัตว์ให้ทั่วร่างทิ้งไว้จนแห้ง จากนั้นเราเคลื่อนย้ายสัตว์ไปส่งกับเจ้าของออร์เดอร์ที่สั่ง หากเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ก็จะนำชิ้นส่วนแต่ละชิ้นไปประกอบหน้างานจนแล้วเสร็จ ซึ่งการสร้างไดโนเสาร์จำลองด้วยการสานด้วยไม้ไผ่ชิ้นนี้ใช้เวลาทำ 2 เดือน ในราคาตัวละ 85,000 บาท แถมยังมีความคงทนสามารถนำไปตั้งตระหง่านได้เป็นแรมปี

แต่ถึงอย่างไรก็ตามศิลปินอย่างนายโดม น้อยคนที่รู้จักแม้แต่คน อ.สุไหงโก-ลก เอง เพราะนายโดม ครองตนอย่างศิลปินไม่ได้ครองตนแบบนักธุรกิจ ส่วนใหญ่จะพบเห็นเป็นผลงานที่ตั้งตระหง่านอยู่ที่บริเวณหน้าด่านพรมแดน อ.สุไหงโก-ลก เป็นรูปคิงคองจำลอง และปลามังกรจำลองขนาดใหญ่ จึงขอชาว อ.สุไหงโก-ลก ให้ทราบว่า งานศิลปะสานไม้ไผ่ทั้ง 2 ชิ้นนั้น มาจากฝีมือของนายโดม ท่านสร้างศิลปะทั้ง 2 ชิ้นให้กับสาธารณะ เพื่อให้นักท่องเที่ยวและชาว อ.สุไหงโก-ลก ได้ยลโฉมสมกับเป็นเมืองท่องเที่ยวของ จ.นราธิวาส

ด้านนายโดม กล่าวว่า งานพวกนี้ผมไม่ได้ทำเชิงธุรกิจ 100 เปอร์เซ็นต์ ทำไปด้วยความชอบสร้างสรรค์งานไปเรื่อยๆ ที่สะดุดกับไม้ไผ่ 1.ชาวบ้านหรือพวกพรรคที่มีไม้ไผ่เยอะเขาขุดทิ้งบ้าง เผาทิ้งบ้างมันไม่ได้ใช้ประโยชน์ ผมเลยมีความคิดว่าถ้าเราสร้างรายได้ให้กับเขา โดยเอาไม้ไผ่มาสร้างอะไรก็ได้เป็นบ้าน ศาลาหรืออะไรก็ได้ เป็นรูปสัตว์อย่างน้อยชาวบ้านจะได้มีรายได้ 2. หากเยาวชนรุ่นใหม่อยากรู้เรียนผมยินดีสอนฟรีทุกขั้นตอนเริ่มต้นอย่างไร ซึ่งตัวที่ทำอยู่สามารถเป็นอาจารย์นำความรู้ไปทำเอง หากมีความคิดความสนใจด้านนี้ผมยินดี