ยะลา พบติดโควิด-19 เพิ่ม 4 ราย จากคลัสเตอร์มัรกัสยะลา เร่งตรวจเชิงรุกกลุ่มเสี่ยง
23 มิ.ย. 2564, 17:11
วันที่ 23 มิ.ย.64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลธารน้ำทิพย์ อ.เบตง จ.ยะลา นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง เป็น
ประธานในการประชุมมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ตำบลธารน้ำทิพย์ โดย มีหัวหน้าส่วนราชการและผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมประชุม นายอำเภอเบตง กล่าวว่า ที่ต้องเรียกประชุมในครั้งนี้ เพราะได้มีคำสั่งจาก จังหวัดยะลา ที่ 118/2564 เรื่องกำหนดพื้นที่เสี่ยงเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD-19) เนื่องจากในช่วง 2 วันที่ผ่านมา มีรายงานว่าชาวตำบลธารน้ำทิพย์ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปแล้ว 4 ราย ซึ่งเป็นคลัสเตอร์จากมัสกัสยะลา จึงจำเป็นที่ทางอำเภอเบตงต้องหารือกับทุกฝ่ายในเรื่องการดำเนินมาตรการเข้มเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดไม่ให้แพร่ระบาดเพิ่มขึ้นไปมากกว่านี้โดยข้อสรุปในที่ประชุมกำหนดปิดหมู่ที่ 3 บ้านกาแป๊ะสาลัง ต.ธารน้ำทิพย์ อ.เบตง จ.ยะลาเป็นเวลา 14 วัน โดยเริ่มจากวันที่ 22 มิ.ย. เป็นต้นไป
ขณะที่นางมุกดา ยังอภัย ณ สงขลา นายกกิ่งกาชาดอำเภอเบตงและสมาชิก ได้ร่วมทำอาหารบรรจุกล่องจำนวน 500 กล่อง เพื่อนำไปมอบให้กับประชาชนที่อยู่ใน 3 ชุมชน ประกอบด้วย ชุมชนกุนุงจานอง ชุมชนตักโกร ชุมชนกือติง ในเขตเทศบาลเมืองเบตง เนื่องจากล่าสุดในพื้นที่อำเภอเบตง มีผู้ป่วยยืนยันสะสม รวม 123 ราย ผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ 10 ราย รักษาหาย 18 ราย รักษาใน รพ. 79 ราย รักษาใน รพ.สนาม 24 ราย ส่งต่อ 1 ราย เสียชีวิตสะสม 1 ราย ส่วนผู้ป่วยในกลุ่มเสี่ยงสูง ที่ไปร่วมกิจกรรมหรือมีญาติไปร่วมกิจกรรม จากโรงเรียนตะห์ฟีซุลกรุอานมัรกัส ใน จ.ยะลา ที่มีความเสี่ยงสูงให้กักตัวในบ้าน 14 วัน หลังทำการ SWAB เพื่อรอผลยืนยัน ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข
ขณะเดียวกันทางเทศบาลเมืองเบตงได้ติดป้ายประกาศเพิ่มเติม ห้ามมิให้ผู้ใดเข้า-ออกพื้นที่ เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นการชั่วคราว ซึ่งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองเบตง ขณะเดียวกันได้มีการประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ว่าหากสถานการณ์คลี่คลายลงและมีความพร้อมจะเปิดดำเนินการ ต้องทำการจัดระบบและระเบียบต่างๆ ให้เป็นไปตามมาตรการของจังหวัดยะลาและต้องมีมาตรการป้องกันโรคที่ เพื่อพิจารณายกเลิกมาตรการดังกล่าวต่อไป หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้มีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และมีความผิดตามมาตรา 18 สถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับโดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป