หมอธีระ แนะ 2 แนวทางตัดวงจรการระบาดของโควิด-19 ในเมืองใหญ่
25 มิ.ย. 2564, 16:07
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกโพสต์เฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2564 เกี่ยวกับแนวทางตัดวงจรการระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ระลอก 3 ในเมืองใหญ่ คุณหมอเผยว่า โจทย์นี้ทำให้นึกถึงวันที่ 18 มีนาคม 2563 ที่ร่างข้อเสนอเชิงนโยบายขึ้นมา และนำเสนอในวันที่ 19 มีนาคม 2563 เพื่อให้พิจารณาล็อคดาวน์ตัดวงจรการระบาดระลอกแรก
แต่การหยุด ณ ตอนนี้ ไม่เหมือนระลอกแรก เพราะระลอกแรกนั้น เรานำเสนอวิธีการ เงื่อนเวลาในการตัดสินใจ และดำเนินการทำอย่างทันเวลาก่อนจะขึ้นสู่พีคการระบาด และจำนวนการติดเชื้อในชุมชนยังไม่มากและกระจายไปทั่วแบบในปี 2564 ผลลัพธ์จากระลอกแรกจึงเป็นดังที่เห็นมาคือ กดการระบาดจนเหลือศูนย์ได้
แต่ตอนนี้ การระบาดขึ้นมาสู่ระดับสูงมาก ยาวนานต่อเนื่องหลายเดือน สะท้อนให้เห็นสภาพความเป็นจริงว่ามีการติดเชื้อกระจายไปทั่ว จับต้นชนปลายไม่ถูก ทุกคนมีสิทธิติดเชื้ออยู่โดยไม่รู้ตัวและแพร่ให้คนใกล้ชิดได้โดยไม่รู้ตัว ทั้งนอกบ้านและในบ้าน การ "หยุด" เพื่อตัดวงจรการระบาดสำหรับปัจจุบันนี้ จะต้องคำนึงถึงธรรมชาติของการระบาดด้วย
กล่าวคือ ต้องคิดเสมือนว่าทุกคนมีโอกาสมีเชื้ออยู่โดยไม่รู้ตัว พอหยุดอยู่กับที่แล้ว คนที่อยู่อาศัยในที่เดียวกันจะมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อแพร่เชื้อกันได้ ไม่ว่าจะในรูปแบบบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ หอพัก แฟลต อพาร์ตเมนต์ คอนโด หรือชุมชนแออัด
ความสำเร็จจะแขวนบนเส้นด้ายเพียง 2 เส้น
หนึ่ง ทำอย่างไรให้เป็น 2 สัปดาห์ที่สมาชิกในบ้านอยู่ในที่พักโดยใส่หน้ากาก แยกกันกิน และอยู่ห่างกัน หากเป็นไปได้ หากทำไม่ได้อย่างสมบูรณ์ ก็ขอให้อย่างน้อยช่วยกันสังเกตและไถ่ถามอาการของแต่ละคน หากไม่สบายก็ให้รีบไปตรวจ
สอง ทำอย่างไรที่จะตะลุยตรวจคัดกรองโรคให้ครอบคลุมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะตอนนี้การติดเชื้อกระจายไปทั่วในชุมชน โดยอาจต้องผสมผสานหลายวิธี ทั้งแบบการนัดตรวจที่สถานบริการ ออกรถโมบายกระจายไปทั่วพื้นที่ ตลอดจนการทำ "Knock the door and do the test"
สองเรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้มีโอกาสตัดวงจรการระบาดได้สำหรับระลอกสาม นโยบายและมาตรการใดที่อ้างโน่นนี่นั่น แต่นำมาซึ่งความสูญเสีย ทั้งในรูปของการติดเชื้อหลายแสนคนในไม่กี่เดือน และการสูญเสียชีวิตของคนเป็นพัน ๆ คน ถือเป็นภาพสะท้อนปัญหาในการจัดการต่อสู้กับโรคระบาด
หากปราศจากชีวิต ย่อมไม่มีทางเสกให้ฟื้นคืนมา ทุกชีวิตล้วนมีคุณค่ายิ่ง ด้วยรัก และห่วงใย