“ ในส่วนนักเรียนนายสิบตำรวจที่ติดเชื้อโควิด-19 ให้ทีมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเร่งสอบสวนโรค และแจ้งให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่อำเภอภูมิลำเนาของนักเรียนพลตำรวจตรวจสอบกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงโดยเร็วที่สุด เพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาดในครอบครัว โดยให้แยกตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงออกมาพักอยู่ในสถานที่สังเกตอาการของหมู่บ้านหรือชุมชน และให้ประสานเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี เข้าดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรคโดยเข้มงวด เนื่องจากศูนย์ฝึกฯ อยู่ในเขตชุมชนบึงขุนทะเล และประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับประชาชนในละแวกนี้ไม่ให้ตื่นตระหนก ประกอบกับศูนย์ฝึกเป็นพื้นที่ควบคุมเฉพาะจึงไม่มีความเสี่ยงระบาดสู่ชุมชน ในส่วนที่จะมีการสอบของศูนย์ฝึกฯในวันที่ 4 ก.ค.นี้ จะให้ไปใช้สถานที่อื่นแทน ” นายวิชวุทย์ กล่าว

ทั้งนี้ จากการสอบสวนโรคพบว่า ก่อนนี้ศูนย์ฝึกฯ ได้อนุญาตให้นักเรียนนายสิบที่อยู่ระหว่างฝึกอบรมกลับภูมิลำเนาหลังฝึกมากว่า 2 เดือนและไม่ได้กลับไปเยี่ยมบ้านเนื่องจากต้องปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด- 19 และกำหนดกลับเข้าโรงเรียนเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา กระทั่งเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.64 พบ 1 ในนักเรียนนายสิบที่มีภูมิลำเนา อ.เกาะสมุย มีไข้สูง และหนาวสั่น จึงส่งตรวจพบป่วยโควิด และได้มีการตรวจหาเชื้อในกลุ่มนักเรียนนายสิบ 147 นาย และครูฝึก 16 นาย พบติดเชื้อเพิ่มอีก 21 ราย รวมเป็น 22 รายดังกล่าว

สำหรับ สถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด -19 ล่าสุด พบผู้ป่วยรายใหม่ 24 ราย ในพื้นที่ อ.เมือง 23 ราย (21ราย ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 8 ) อีก 2 รายเป็นผู้ป่วยเฝ้าระวังร่วมบ้าน และ ที่ อ.กาญจนดิษฐ์ 1 ราย ปัจจุบัน จ.สุราษฎร์ธานี มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 1,907 ราย ซึ่งอยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมโรคได้จากมาตรการเชิงรุก “ แยกผู้สัมผัสเสี่ยง หยุดแพร่เชื้อ ”ของนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ดำเนินการได้ผลมีผู้ติดเชื้อลดลงมีพื้นที่สีเขียวเกือบทั้งหมด