วันนี้ 30 มิ.ย. 64 การเฝ้าระวังการป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาโควิด 19 ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ยังคงเข้มงวด โดยเฉพาะหลังมีการประกาศปิดแคมป์คนงานในจังหวัดพื้นที่เสี่ยง ซึ่งส่งผลให้มีแรงงานชาวกัมพูชาจำนวนมากต้องเดินทางขอกลับประเทศทางด้านประตูด่าน ผ่านแดนถาวรช่องจอม ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เป็นจำนวนมาก ในขณะเดียวกันก็มีแรงงานก่อสร้างชาวไทย เดินางกลับภูมิลำเนาในจังหวัดสุรินทร์เช่นกัน ซึ่งจากข้อมูลของ จ.สุรินทร์ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มแล้วหลายราย ทำให้จังหวัดต้องออกประกาศเข้มงวดในการเฝ้าระวัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงเรียนประสาทวิทยาคาร อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ พบกลุ่มเสี่ยงซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียนกว่า 30 คน ที่มีประวัติสัมผัสกับเพื่อนนักเรียนที่ผู้ปกครอง ซึ่งเป็นบิดากลับมาจากจังหวัดในภาคกลางซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยง เพื่อมาเยี่ยมลูก 2 วัน จากนั้นบิดา ได้กลับไปเสียชีวิตด้วยอาการป่วยจากไวรัสโคโรนา โควิด-19 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ กลุ่มเสี่ยง ซึ่งเป็นเด็กนักเรียน ทั้ง 30 คนต้องถูกกักตัวดูอาการ และไล่เลี่ยกันพบว่าคนในครอบครัว แม่ค้าขายลูกชิ้นนึ่ง หน้าโรงเรียนประสาทวิทยาคาร ก็ถูกกักตัว หลังคนในครอบครัวติดเชื้อโควิด-19

 

ขณะที่ นายอภินันท์ จันทเขต ผอ.โรงเรียนประสาทวิทยาคาร ได้ออกประกาศ เรื่องปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอน ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า โควิด -19 โดยให้ปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนเป็น แบบ ออนไลน์ ออนแอร์ ออนเดแมน ออนแฮนด์ หรือวิธีที่คุณครูผู้สอนเห็นว่าเหมาะสมตามตางรางที่วิชาการได้กำหนดไว้ ตั้งแต่วันอังคารที่ 29 มิ.ย.64 ถึงวันศุกร์ที่ 2 ก.ค.64 และให้มาเรียนตามปกติในวันจันทร์ที่ 5 ก.ค.64

ในขณะเดียวกันตามสถานศึกษาต่างๆหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็ได้มีการกำชับเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะโรงเรียนตามชุมชนหมู่บ้านต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งมีกลุ่มเสี่ยงหรือแรงงานเดินทางกลับเข้าในพื้นที่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์เขต 1 ได้มีการกำชับให้ฝ้าระวังอย่างเต็มที่ในเรื่องความปลอดภัยของเด็กและครู บุคลากรทางการศึกษา ให้มีการบริหารข้อมูลร่วมมือกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล สาธารณสุขอำเภอ นายอำเภอและผู้นำชุมชน ให้มีการวิเคราะห์กลุ่มเสี่ยง ให้ ผอ.โรงเรียนแต่ละแห่งใช้ดุลพินิจให้สามารถจัดการการเรียนการสอนได้ถ้าปลอดภัยในช่วงออนไซท์ ถ้าข้อมูลเปลี่ยนไปก็สามารถจัดการสอนในรูปแบบออนไลท์หรือออนแฮนด์ได้ ซึ่งล่าสุดมีโรงเรียนประถมขนาดใหญ่ รอบๆตัวเมือง ก็ได้ปรับการสอนจากให้เด็กมาเรียนที่โรงเรียนเป็นรูปแบบเรียนที่บ้านหรือแบบออนแฮนด์และออนไลท์ แทน และอีกหลายแห่งนับ 10 โรงแล้วที่ปรับเปลี่ยนการสอน เพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยกลุ่มเสี่ยงส่วนมากเป็นผลมาจากการประกาศปิดแคมป์คนงานที่ผ่านมา ทำให้มีกลุ่มเสี่ยงเดินทางกลับบ้านเข้ามาในพื้นที่จำนวนมาก