13.30 น. เฮลิคอปเตอร์ ปภ. KA-32-02 ซึ่ง ปภ. ได้ร่วมกับกองทัพบก (ทบ.) นำเข้าสนับสนุนการระงับเหตุไฟไหม่ในพื้นที่ โดยเริ่มขึ้นบินสำรวจพื้นที่เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานพลาสติก บางพลี สมุทรปราการ ล่าสุดยังคงมีกลุ่มควันดำหนาแน่น

15.00 น. เฮลิคอปเตอร์ KA-32 ซึ่งกองทัพบก (ทบ.) ร่วมกับ ปภ. ส่งเข้าสนับสนุนภารกิจระงับเหตุไฟไหม้ ได้ขึ้นบินเที่ยวแรกเพื่อโปรยทิ้งโฟมดับเพลิงบริเวณจุดที่ตั้งโรงงานพลาสติก โดยจะวางแผนและประเมินสถานการณ์การขึ้นบินเป็นระยะ เบื้องต้น 6 เที่ยว ซึ่งนักบินขอปรับแผนเป็นการเทโฟม 300 ลิตรผสมน้ำ 3,000 ลิตร เทแบบเต็มพื้นที่ พร้อมสนธิกำลังกับหน่วยงานภาคพื้นดินเข้าฉีดพ่นโฟมดับเพลิง โดยมี กทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำยานยนต์ดับเพลิง LUV-60 เข้าฉีดพ่นเสริมกำลังดับไฟ ซึ่งจะปฏิบัติการเป็นระยะ

ล่าสุด นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองอธิบดี​กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แถลงข่าวรายงานความคืบหน้า เหตุไฟไหม้โรงงานบริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัด ซึ่งผลิตโฟมและเม็ดพลาสติก ภายในซอยกิ่งแก้ว 21 ถนนกิ่งแก้ว ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ยืนยัน เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว 1 บ่อ  แต่ยังมีอีกหนึ่งบ่อที่จะต้องใช้อากาศยานเข้าไประงับเหตุ ก่อนจะใช้ทีมภาคพื้นดินเข้าตามไป

เบื้องต้นหากเป็นไปตามแผน คาดว่าจะสามารถทำให้เพลิงสงบได้ในระยะเวลาไม่นานนี้ อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้โฟมผสมน้ำในการรักษาอุณหภูมิจุดที่เกิดเพลิงไหม้ และระดมทีมกู้ภัยจากหลายหน่วยงาน รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาดูอย่างใกล้ชิด

ความคืบหน้าเวลา 16.55 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เผยหลังจากที่นักบินและกำลังพลของกองทัพบกได้ร่วมกับ ปภ. นำเฮลิคอปเตอร์ KA-32 จำนวน 2 ลำ ขึ้นบินเทโฟมดับเพลิง จากการประเมินสถานการณ์ของทีมภาคพื้นดินพบว่าการลุกไหม้ลดลง แต่ยังมีบางส่วนกลับมาปะทุไหม้ จึงได้ประสานจังหวัดสมุทรปราการนำทีมปฏิบัติการภาคพื้นดินสนธิกำลังเข้าปฏิบัติการดับไฟ ทั้งหน่วยดับเพลิงของกทม. และหน่วยงานต่าง ๆ ภายใต้การแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ 

อย่างไรก็ตาม กำลังพลของ ทบ. ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤตของ ปภ. เฮลิคอปเตอร์ KA-32 ทั้ง 2 ลำ จะยังคง stand by ประเมินการปฏิบัติการทางอากาศและทางภาคพื้นดินสลับกันไปตามสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม ปภ. ได้สั่งการให้ศูนย์ ปภ. เขตใกล้เคียงนำรถไฟฟ้าส่องสว่างเข้าสนับสนุนการทำงานในภาคกลางคืนแล้ว

ถัดมา 18.00 น. ศูนย์ติดตามสถานการณ์ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เผยจังหวัดสมุทรปราการได้ตั้งจุดอพยพกรณีเหตุไฟไหม้โรงงานพลาสติก ซอยกิ่งแก้ว จ.สมุทรปราการ จำนวน 7 จุด ได้แก่

1) โรงเรียนเตรียมปริญญานุสรณ์

2) อบต.บางพลีใหญ่ (หลังเก่า) และวัดบางพลีใหญ่กลาง

3) โรงเรียนบางกระบือ

4) ศาลพ่อหลวง

5) วัดบางโฉลงใน

6) วัดบางโฉลงนอก

7) วัดบางพลีใหญ่

ล่าสุดมีผู้อพยพจำนวน 1,120 คน โดย อบต.บางพลีใหญ่ได้ให้การดูแลประชาชนผู้อพยพในเบื้องต้น ด้านสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการได้เข้าดูแลตามมาตรการการควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด - 19 อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ปภ.ได้ส่งรถประกอบอาหารและรถผลิตน้ำดื่มจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 1 ปทุมธานี เขต 2 สุพรรณบุรี และเขต 16 ชัยนาทเข้าดูแลร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อประกอบอาหารปรุงสุกแจกจ่ายแก่ผู้อพยพที่ อบต.บางพลีใหญ่และวัดบางพลีใหญ่กลางเข้าดูแลร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อประกอบอาหารปรุงสุกแจกจ่ายแก่ผู้อพยพที่ อบต.บางพลีใหญ่และวัดบางพลีใหญ่กลาง #ไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้ว

18.55 น. จากกรณีที่มีการแชร์ข่าวแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณโดยรอบรัศมี 5 กิโลเมตรเป็นรัศมี 10 กิโลเมตรจากจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานพลาสติก บางพลี ทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ประสานกับจังหวัดสมุทรปราการ ได้รับการยืนยันยังคงเป็นรัศมี 5 กิโลเมตร ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากประกาศเดิม ทั้งนี้ อำนาจหน้าที่ในการประกาศให้ประชาชนอพยพเป็นของผู้ว่าราชการจังหวัด ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลอย่างเป็นทางการจากจังหวัดเท่านั้น

ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM