เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



 ตา สุรางคณา ฝึกกรรมฐานเปิดโลก  เห็นตัวเอง เคยเกิดเป็นพญานาค 


7 ก.ค. 2564, 12:15



 ตา สุรางคณา ฝึกกรรมฐานเปิดโลก  เห็นตัวเอง เคยเกิดเป็นพญานาค 




 

 

นักแสดงสาว ตา สุรางคณา เปิดใจในรายการ ต้มยำอมรินทร์ เล่าสิ่งที่ทำให้ชีวิตนี้ของตัวเองเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงตอนที่ป่วยเป็นมะเร็ง ตอนอายุ 27 ปี ทำให้ตัวเองได้เข้าสู่เส้นทางสายธรรมอย่างจริงจัง เธอเผยว่า

อายุ 27 เพราะเราไปตรวจเจอมะเร็งท่อน้ำดี พอหลังจากนั้นต้องนอนโรงพยาบาล 10 วัน ซึ่งตอนนั้นถ้าเป็นดาราคือห้ามออกข่าว เจ็บ ป่วย ตาย หรือมีแฟน ต้องเก็บตัวเงียบอย่างเดียว เพราะถ้าเขารู้ว่าเราป่วยคือ งานเราก็จะหายไปเลย เพราะเขาจะคิดว่าเราทำงานไม่ได้เลยให้รู้ไม่ได้เลยว่าเราป่วย ซึ่งตอนนั้นที่เราป่วย เป็นครั้งแรกที่ตั้งแต่เราทำงานมาได้หยุดนอนอยู่โรงพยาบาลสิบวันเลย แล้วผ่าตัดของเราคือ ความยาวแปดนิ้วเลยเพราะการผ่าตัดสมัยก่อนไม่ได้มีเครื่องมือที่ทันสมัยมากเท่ากับปัจจุบันนี้ และมะเร็งที่เป็นก้อนใหญ่มากเท่ากำมือของเราเลย ซึ่งนอนพักอยู่ที่โรงพยาบาลในช่วงเจ็ดวันแรก หมอให้มอร์ฟีน หลังจากนั้นพอเขาหยุดให้เราต้องทนอยู่กับความเจ็บปวด เพราะหายใจแต่ละครั้งน้ำตาไหลเลย ไม่อยากหายใจเลย ไม่หายใจได้ไหม และเป็นครั้งแรกที่เรารู้สึกว่าจริงๆ แล้วเพื่อนที่ดีที่สุดของเราคือลมหายใจนะ เพราะเมื่อก่อนเราไม่เคยสนใจลมหายใจตัวเองเลย แต่พอเวลาที่เราจะตายเราคิดว่ายังไงฉันขออีกเฮือกเถอะ เพราะว่าฉันไม่อยากให้ลมหายใจของฉันมันหมดไป แล้ววันนั้นช่วงที่เราเมามอร์ฟีนอยู่สองวัน

เพื่อนเอาหนังสือธรรมะมาทิ้งไว้ชื่อ คู่มือมนุษย์ ของท่านพุทธทาส เราก็หยิบขึ้นมาเปิดแล้วไปเจอท่อน อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา คือมันยากนะ ภาษาบาลีแต่พอเราอ่านในเนื้อหาคือ ทุกอย่างมันไม่เที่ยงว่าทุกอย่างเป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวตน น้ำตาเราไหลเลย เพราะเรามองย้อนไป ก่อนที่เราจะมาผ่าตัด เรายังแข็งแรงอยู่เลย แต่พอเราได้อ่านแล้วเราป่วยอยู่ตอนนั้น ทำให้เราคิดได้ว่าร่างกายไม่ใช่ของเราเหรอ เราไม่สามารถที่จะสั่งให้ไม่เจ็บไม่ปวดได้เหรอ เรามองไปหาพ่อแม่ที่รักเรา มองไปหาแฟนที่เรารัก เขาเจ็บไปกับเราก็จริง แต่เขาไม่ได้เจ็บเหมือนที่เราเจ็บ เราก็คิดว่านี่เราต้องตายไปคนเดียวจริงๆ เหรอ ชีวิตทุกอย่างตอนนั้นพลิกไปหมดเลย จากตอนนั้นที่เราอายุ 27 เราก็ตามหาว่าใครกันนะที่สอนข้อความนี้ไว้ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เราก็มารู้ว่าเป็นท่านพุทธทาส แต่ท่านมรณภาพไปแล้ว ก็คือเป็นธรรมะของพระพุทธเจ้า ซึ่งจริงแล้วเป็นสิ่งที่เราเคยเรียนมาแล้วตั้งแต่ตอนที่เราเด็กๆ ในวิชาพระพุทธศาสนา แต่ตอนที่ป่วยเราเห็นสัจธรรม เห็นชีวิตจริง ว่าถ้าลมหายใจเฮือกนั้นหมดไป เราก็ตาย ถ้าเราตาย เราก็ทำอะไรไม่ได้ เราก็ได้แต่ภาวนาขอให้เรายังมีโอกาสที่จะใช้ชีวิตต่อไป จะใช้ชีวิตให้รู้จักชีวิตจริงๆ ใช้ชีวิตที่เราจะรักตัวเองจริงๆ พอเราแข็งแรงขึ้นมาก็เลิกอย่างแรกคือ เราเลิกกินเหล้า เลิกสูบบุหรี่เลย

หลังจากนั้นเราก็เริ่มแสวงหาความจริงในชีวิตค่ะ เริ่มไปปฏิบัติธรรม สนใจธรรมะ อยากที่จะรู้จริงๆ เราก็เลยไปนั่งสวดมนต์ที่วัดสุทัศน์ พอครบหนึ่งเดือน เราสามารถสวดได้คล่องเลย ซึ่งมีอยู่วันหนึ่งที่เราสวดมนต์อยู่แล้วจิตของเราอีกจิตหนึ่งคิดว่าพอสวดมนต์เสร็จ ฉันต้องไปร้านข้าวมันไก่ ซึ่งตอนนั้นเราคิดเลยว่าไม่ได้แล้วจิตเรายังไม่นิ่ง เราต้องตั้งใจมีสมาธิมากกว่านี้

 



ที่ลพบุรี สอนให้ตัดกรรมจนเห็นอดีตชาติของตัวเอง เป็นกรรมฐานเปิดโลกเป็นวัดที่สอนให้เราสูดลมหายใจแรงๆ เดินจงกรมสองชั่วโมง ยืนสองชั่วโมง นั่งสองชั่งโมง ฝึกหมดทั้งสี่อย่าง แต่ที่เน้นที่สุดคือการหายใจ ซึ่งพอเราทำแบบนี้แล้วมีพระอาจารย์นำ เราจะสามารถย้อนกลับไปเห็นอดีตชาติในสามชาติคือ กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม อย่างกายกรรม บางคนก็จะออกมาเลื้อยเป็นงูเลยค่ะ หรือบางคนก็รำออกมาเต็มองค์เต็มร่างไปหมด แต่ต้องบอกแบบนี้นะคะ จะมีทั้งคนที่มโน และคนที่เข้าถึงจริงก็มีอันนี้แล้วแต่บุญกรรมและความรู้เก่า แต่อยากจะบอกว่าที่เราไป เราต้องไม่คิดไปเองก่อนนะคะ เพราะอย่างที่เราไป เราไม่เชื่อเลยแล้วอยากไปลอง


แล้วสิ่งที่เราเห็นคือ เราเคยเป็นพญานาค อยากจะบอกว่าคนที่ลงไปเลื้อยคือตัวตา ซึ่งเรารู้สึกตัวทุกอย่าง ไม่ขาดสติแต่มันฝืนลมหายใจตัวเองไม่ได้ ซึ่งรูปร่างพญานาคที่เราเห็นคือ สวยมากมีขนงามมากแล้วก็เปล่งแสงสีเขียว แล้ววันนั้นเราก็ช็อคไปเลยไม่น่าเชื่อ ตอนแรกไม่ได้เชื่อเรื่องพญานาคหรืออะไรมาก่อน เพราะต้องบอกก่อนว่าตอนแรกที่เราไปนั่ง ไม่ได้เห็นที่ชาติที่เราเป็นพญานาคแค่ชาติเดียวนะ เราย้อนกลับไปเห็นถึงสิบชาติ ว่าชาตินั้นๆ เราเป็นอะไรบ้าง ที่เห็นคือเคยเกิดในวังด้วยเคยเป็นนางสนมในวังด้วย แล้วก็มีหลายชาติเป็นสัตว์เดรัจฉานก็มี ลงไปในนรกก็มี


 

 

 

 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.