เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



นายกฯ สั่งเร่งช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบเหตุระเบิดโรงงานหมิงตี้ พร้อมเฝ้าระวังเพลิงปะทุซ้ำ


7 ก.ค. 2564, 14:53



นายกฯ สั่งเร่งช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบเหตุระเบิดโรงงานหมิงตี้ พร้อมเฝ้าระวังเพลิงปะทุซ้ำ




วันที่ 7 ก.ค.64 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ทุกส่วนราชการได้เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุโรงงานหมิงตี้ เคมิคอล อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ระเบิด ตามบัญชาพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งนายกรัฐมนตรียังได้สั่งการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงการเฝ้าระวังในพื้นที่อีกระยะหนึ่ง เพื่อป้องกันเหตุเพลิงไหม้ไม่ให้เกิดซ้ำ พร้อมยืนยันจะให้การดูแลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและความเสียหายตามสิทธิ รวมทั้งได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งค้นหาสาเหตุ เพื่อป้องกันไม่ได้เกิดเหตุขึ้นอีกในอนาคต  
 
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยถึงมาตรการช่วยเหลือจากส่วนราชการ อาทิ กระทรวงแรงงาน สำนักงานประกันสังคมจะได้ตรวจสอบสถานะความเป็นผู้ประกันตนที่ได้รับบาดเจ็บทั้งผู้ประกันตนตามมาตรา 33 มาตรา 38 มาตรา 39 และมาตรา 40 ให้เข้ารับการรักษาพยาบาลตามสิทธิประโยชน์ในเรื่องของการรักษาพยาบาล และสิทธิอื่น ๆ ที่พึงได้ โดยแยกเป็นการประสบอันตรายเนื่องจากการทำงาน ซึ่งมีสิทธิได้รับสิทธิความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติเงินทดแทน พ.ศ. 2537 และพระราชบัญญัติเงินทดแทน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 เป็นค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็น และค่าทดแทนกรณีหยุดพักรักษาตัว ร้อยละ70 ของค่าจ้างรายเดือน กรณีลูกจ้างสูญเสียสมรรถภาพในการทำงานของร่างกาย จะจ่ายร้อยละ70 ของค่าจ้างรายเดือนตามระยะเวลาที่กำหนดแต่ไม่เกิน 10 ปี



กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ได้ให้เงินช่วยเหลือสำหรับการย้ายบ้านชั่วคราว จากไม่สามารถอยู่อาศัยในที่พักเดิมได้ ครอบครัวละ 18,000 บาท  การเคหะแห่งชาติ จัดหาโรงแรม/ห้องพักราคาถูก สำหรับผู้ต้องการที่อยู่อาศัยเร่งด่วน หากไม่สามารถจ่ายค่าใช้จ่าย การเคหะแห่งชาติจะจัดสรรห้องพักเพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป โดยติดต่อที่สายด่วน พม. โทร. 1300 บริการ 24 ชั่วโมง สำหรับกระทรวงศึกษาธิการจัดหาที่พักให้ครู บุคลากร และครอบครัว ของโรงเรียนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
 
นอกจากนี้ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย บูรณาการร่วมกับภาคอุตสาหกรรมประกันภัย สมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมประกันวินาศภัยไทย และบริษัทประกันภัย ตรวจสอบข้อมูลการทำประกันภัยของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ เพื่อให้ความช่วยเหลือเยียวยาด้านประกันภัยอย่างเร่งด่วน เพื่อบูรณาการการจ่ายสินไหมทดแทนให้กับประชาชนผู้เดือดร้อนจากเหตุการณ์ในครั้งนี้  สำหรับรายที่ไม่ได้ทำประกันภัยครอบคลุมความสูญเสียหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นไว้ จะได้รับการชดใช้จากการประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอก ซึ่งโรงงานได้ทำประกันภัยดังกล่าวรองรับไว้ด้วยวงเงินเอาประกันภัย 20 ล้านบาท


“หน่วยงานยังมีการเฝ้าระวังในพื้นที่ เพื่อไม่เกิดเหตุซ้ำรวมทั้งหาทางกำจัดสารเคมีที่เหลืออยู่  และหลังจากนี้ จังหวัดสมุทรปราการจะร่วมกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อสำรวจความเสียหายและผลกระทบกับประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บ บ้านเรือนและทรัพย์สินเสียหาย เพื่อให้การเยียวยาตามระเบียบหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินต่อไป” นางสาวรัชดา  กล่าว






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.