วันที่ 7 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ดร.ชูงพงศ์ คำจวง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร เปิดเผยว่า วันนี้สถานการณ์เกี่ยวกับโรคระบาดของคนก็ยังไม่เสื่อมหรือนับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น ในส่วนของสัตว์ก็ไม่น้อยหน้าคนเหมือนกัน โรคที่เกี่ยวกับวัวคือโรคลัมปี สกิน ทำให้วัวเป็นตุ่มเป็นบาดแผลทั่วร่างกายเป็นโรคระบาดจากประเภทยุงแมลงปีกแข็งเป็นพาหะนำโรค ซึ่งเริ่มแรกนั้นเกิดที่อีสานล่างก่อนจะลุกลามไปทั่วทุกภาค อบจ. เราเป็นห่วงเป็นใยพี่น้องเกษตรกรทั้งจังหวัด ที่เป็นผู้เลี้ยงวัวไม่ว่าจะเป็นวัวเนื้อ วัวนมหรือวัวแม่พันธุ์ ซึ่งเป็นปัญหาทำให้พี่น้องเกษตรกรสูญเสียรายได้อย่างมหาศาล ในส่วนของสกลนครก็ล้มป่วยหลายหมื่นตัว เพราะฉะนั้นอาจทำให้วัวเสียชีวิตเป็นพันๆ ตัว การเลี้ยงวัวของพี่น้องเกษตรกรเปรียบเสมือนกระปุกออมสินฝากเงินธนาคารไว้กับวัว วัวตัวนึงราคา 30,000 บาท คนนึงมีอยู่หลายตัวก็ตีเป็นเงินหลายแสนบาทหากวัวล้มตายจนหมดก็แทบจะสิ้นเนื้อประดาตัวได้

 

 

วันนี้องค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนครร่วมกับสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสกลนครได้มีมาตรการเชิงรุกคือการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อยาฆ่าแมลงที่เป็นพาหะนำโรคให้กับพี่น้องเกษตรกรทั่วทั้งจังหวัดสกลนครและก็องค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนครได้จัดสรรงบประมาณร่วมกับปศุสัตว์จังหวัดในการลงพื้นที่ทุกตำบลร่วมกับพี่น้อง สจ.ทั้ง 36 เขตเลือกตั้ง ดำเนินการมอบน้ำยาและวัคซีนเพื่อเคลียร์ทุกพื้นที่ทุกตำบลในการยับยั้งโรคนี้ป้องกันความเสียหายต่อเกษตรกรและเศรษฐกิจ ข่าวดีที่จะช่วยเกษตรกรในการลดภาระค่าใช้จ่ายต่อการรักษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร จับมือกับมหาวิทยาลัยราชมงคลวิทยาเขตอีสาน อ.พังโคน คิดค้นสูตรยาโบราณที่ใช้สมุนไพรนำไปใช้ทาแผลวัว เพราะมีการทดลองแล้วได้ผลจริง จึงดำเนินการจัดทำน้ำยาขึ้นมา  ต้นทุนต่อขวดไม่เกิน 10 บาท ตั้งเป้า จำนวน 20,000 ขวด เพื่อนำไปมอบให้กับสำนักงานปศุสัตว์แล้วก็แจกจ่ายให้พี่น้องเกษตรกร นี่คือสิ่งหนึ่งที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนครมีความเป็นห่วงเป็นใยพี่น้องชาวจังหวัดสกลนครในสภาวะวิกฤตทั้งต่อคนและสัตว์เลี้ยงในปัจจุบัน