เตือนไว้เป็นอุทาหรณ์ ! "หนุ่มวัย 26 ปี" เล่นเกมมือถือขณะขับรถ เสียหลักพุ่งชนป้ายบอกทาง เสียชีวิต
8 ก.ค. 2564, 08:18
วันที่ 7 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า พันตำรวจโทภูชิต เกตุแก้ว สารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะตกถนน ชนป้ายบอกทางพังเสียหาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนสายท่ามะขาม-ท่าน้ำตื้น หมู่ 3 ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ บริเวณป่าละเมาะริมถนน พบรถยนต์กระบะโตโยต้า ไฮลักซ์ สีแดง หมายเลขทะเบียน บย 1170 กาญจนบุรี ซึ่งบรรทุกผักชนิดต่างๆ มาเต็มคัน สภาพรถเสียหลักพุ่งตกลงไปในป่าละเมาะข้างทางชนกับต้นไม้น้อยใหญ่พังราบ ก่อนที่รถคันดังกล่าวจะไปชนกับป้ายบอกทางริมถนน และไปชนกับศาลพระภูมิ ศาลเจ้าที่ ซึ่งอยู่บริเวณหน้าร้านตัดผมจนพังยับเยิน สภาพด้านหน้ารถมีร่องรอยการชนจนพังยับเยิน ฝากระโปรง และหลังคารถฝั่งด้านคนขับ ชนอัดกับเสาปูนของป้ายบอกทางจนยุบลงมา ภายในรถ บริเวณที่นั่งฝั่งคนขับ พบร่างของนายวีระศักดิ์ อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถ เสียชีวิตติดอยู่คาพวงมาลัย สภาพศพกะโหลกศีรษะมีรอยแตกขนาดใหญ่และมีเลือดไหลออกเป็นจำนวนมาก ขณะที่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ ยังพบร่างของนางสาวจุฑาทิพย์ อายุ 16 ปี ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ทำการตรวจรักษาต่อไป เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบบนถนนบริเวณจุดเกิดเหตุ ไม่พบร่องรอยการเบรกหรือหักรถหลบแต่อย่างใด
โดยหลังเกิดเหตุไม่นาน พ่อและแม่ของผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตได้เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเมื่อผู้เป็นแม่ เห็นสภาพศพของลูกชายที่เสียชีวิตอยู่ภายในรถ ก็ถึงกับทรุดลงไปกองกับพื้นและร้องไห้ปานจะขาดใจ สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก ขณะที่พ่อของนายวีระศักดิ์ ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า นายวีระศักดิ์ พร้อมน้องสาว ได้ขับรถกระบะคันเกิดเหตุออกมาจากบ้าน ที่อยู่บ้านสะพานหิน ตำบลวังเย็น เพื่อจะไปขายผักที่ตลาดนัดท่าน้ำตื้น ตำบลแก่งเสี้ยน ก่อนจะมาประสบอุบัติเหตุดังกล่าว
ทั้งนี้ พ่อของผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ยังได้กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ น่าจะมาจากการที่ลูกชายของตนซึ่งเป็นคนขับรถ น่าจะขับรถไปด้วยพร้อมกับเล่นเกมมือถือไปด้วย เพราะเมื่อตนเข้าไปดูศพของลูกชายในรถยังพบว่า มือของลูกชายยังกำโทรศัพท์มือถือเอาไว้แน่น ซึ่งลูกชายของตนชอบเล่นเกมในโทรศัพท์มือถือมาก ตนเคยเตือนหลายครั้งว่าเวลาขับรถอย่าเล่นเกมมือถือ เพราะอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ สุดท้ายก็มาเกิดอุบัติเหตุขึ้นจริงๆ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รอสอบปากคำของน้องสาวผู้เสียชีวิตอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุในครั้งนี้ต่อไป