"วราวุธ" เผยอากาศรอบโรงงานหมิงตี้ปลอดภัย-น้ำอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
8 ก.ค. 2564, 12:11
8 ก.ค. 64 ทำเนียบฯ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ให้สัมภาษณ์ผ่านวีดีโอคอล ถึงผลกระทบด้านอากาศและน้ำจากเหตุไฟไหม้ บริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ซ.กิ่งแก้ว อำเภอบางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติก ว่าขณะนี้คุณภาพอากาศรอบบริเวณโรงงาน ถือว่าอยู่ในสภาพปลอดภัย แต่ภายในโรงงานเองยังมีค่าสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย หรือ Volatile Organic Compounds, VOCs อยู่ในระดับสูง แต่ยังไม่ถือว่าเป็นอันตราย
ทั้งนี้คุณภาพอากาศโดยรอบโรงงาน ถือว่าอยู่ในโซนปลอดภัยสำหรับประชาชน แต่สิ่งที่สำคัญขณะนี้ที่หลายฝ่ายเป็นห่วง คือปริมาณสารเคมีที่ตกค้าง อยู่ในตามจุดต่างๆเช่น ท่อระบายน้ำ แหล่งน้ำ ซึ่งกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ไปตรวจสอบบึงด้านหลังโรงงาน และคลองชวดลาดข้าว 2 จุด และ คลองอาจารย์พร 1 จุด และ ท่อระบายน้ำก่อนไหลลงคลองอีก 2 จุด และ ร่องระบายน้ำหน้าโรงงานอีก 1 จุด ซึ่งแต่ละจุด พารามิเตอร์ได้ทดสอบไป บริมาณออกซิเจน ละลายในน้ำ สารสไตรีน สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย น้ำมัน ไขมัน ซึ่งจากการตรวจอสอบ สามารถเห็นค่าได้เลย คือ ค่านำไฟฟ้า และ ค่าปริมาณที่สำคัญ คือ ออกซิเจนที่ละลายในน้ำ ในแหล่งน้ำไม่ว่าเป็นบึง หรือคลอง แหล่งน้ำธรรมชาติ ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ได้มาตรฐาน คุณภาพของน้ำอยู่ แต่ส่วนที่อยู่ในร่องน้ำ ท่อระบายน้ำ ก็เป็นไปตามคาดคือ มีลักษณะน้ำเน่าเสียเป็นปกติ ปริมาณออกซิเจนที่ละลายในน้ำต่ำกว่ามาตรฐาน
นายวราวุธ กล่าวว่าส่วนที่ส่งไปให้ห้องแล็ปวิเคราะห์คือ ละลายในน้ำ สารสไตรีน สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย น้ำมัน ไขมัน ในวันที่ 9 ก.ค. เราจะทราบผล ว่า ตัวอย่างที่เราส่งไปเหล่านั้น มีผลเป็นอย่างไร ส่วนมาตรการควบคุมการระบายน้ำในพื้นที่ของโรงงานนั้น ขณะนี้ทางกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ให้ความร่วมมือในการปิดเส้นทางน้ำ และ ปิดประตูระบายน้ำในซีกตะวันตกเป็นที่เรียบร้อย ส่วนในท้องถิ่น ก็มีการปิดทางระบายน้ำซีกตะวันออก เพื่อควบคุมการระบายน้ำที่ปนเปื้อนไม่ให้ลงไปแหล่งน้ำธรรมชาติ ขอเรียนประชาชนว่าผลแล็ปที่จะออกมาในอีก 24ชั่วโมง นั้นขอให้ทุกคนทราบว่าลักษณะของสารสไตรีน เป็นสารที่มีความถ่วงน้ำเพาะน้อยกว่าน้ำ แปลว่าเวลาผสมกับน้ำแล้ว จะลอยอยู่เหนือน้ำ และ สารดังกล่าว มีจุดเดือดต่ำ แปลว่าโอกาสจะละเหยขึ้นไปนั้นมีสูง หากไปอยู่ตามท่อระบายน้ำ ก็คาดว่าปริมาณ สารสไตรีน ที่ตกค้างเมื่อผ่านไป24 ถึง 48 ชั่วโมงก็ระเหยไปได้ในเร็ววัน ส่วนค่าสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย และ คราบน้ำมัน ไขมัน เราก็จะได้ทราบผลในวันที่ 9 ก.ค. อย่างเป็นทางการว่ามีปริมาณอยู่เท่าไหร่ ซึ่งก็เชื่อว่าน่าจะอยู่ในปริมาณที่ปลอดภัย
“ที่ผ่านมาทางกรมควบคุมมลพิษได้ประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ และ อีกหลายหน่วยงานในการฉีดสารดับเพลิงโฟม F-500 บริเวณรอบถังสไตรีนแล้วประมาณร้อยละ80 และ สาร DESA อีกตัวหนึงคือ ออร์แกนิกเปอร์ออกไซด์ปริมาณ 600 ลิตรเติมลงไปในถังสไตรีน เพื่อให้ทำปฏิกิริยากับสไตรีนจากของเหลวจับตัวให้เป็นก้อน จะทำให้สามารถลำเรียงสารสไตรีนเหล่านั้นออกมากำจัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดโอกาสที่จะเกิดการปะทุของเชื้อเพลิง”
อย่างไรก็ตามการประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการเป็นอย่างดี เพราะตั้งแต่ปี 2537 จังหวัดสมุทรปราการถูกกำหนดเป็นพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ นั้นหมายความว่าท้องถิ่น จะสามารถตั้งงบประมาณในการฟื้นฟูพื้นที่โดยรอบโรงงานได้ เพราะอยู่ภายใต้กฎหมายควบคุมมลพิษอยู่แล้ว และ ที่ผ่านมาทางจังหวัดได้ให้ความร่วมมือทุกฝ่าย ซึ่งต้องขอขอบคุณทางจังหวัดสมุทรปราการที่กำลังเร่งแก้ปัญหาให้ประชาชน
ที่มา : thaipost