นายอนุชา นาคาศัย พร้อมด้วย นายมณเฑียร สงฆ์ประชา ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จ.ชัยนาท ลงพื้นที่สำรวจและแก้ปัญหาภัยแล้งให้กับชาว อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท หลังจากที่พื้นที่ อ.วัดสิงห์ กำลังประสบปัญหาภัยแล้ง เกษตรกรขาดน้ำในการทำนา ซึ่งน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยานั้นไม่สามารถไหลเข้าแม่น้ำท่าจีนได้ เนื่องระดับของแม่น้ำเจ้าพระยานั้นมีปริมาณที่ต่ำกว่า ปากทางระบายน้ำของแม่น้ำท่าจีน โดยทางจังหวัดชัยนาท อำเภอวัดสิงห์ ปภ.ชัยนาท และโครงการชลประทานชัยนาท ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าสู่แม่น้ำท่าจีน และส่งไปให้เครื่องสูบน้ำของโครงการชลประทานชัยนาทเพื่อแจกจ่ายให้เกษตรกรในพื้นที่

โดย นายอนุชา นาคาศัย ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จ.ชัยนาท เปิดเผยว่า คือปัจจุบันนี้เราต้องยอมรับว่าปีนี้เป็นปีที่หนักหนามากในเรื่องของภัยแล้ง ซึ่งถือว่าเป็นภัยธรรมชาติอย่างหนึ่ง เป็นปีที่ถือว่าในรอบหลายสิบปีที่ฝนทิ้งช่วงและประสบปัญหากันทั้งประเทศ และจังหวัดชัยนาทเป็นพื้นที่ชลประทานยังประสบปัญหาขาดน้ำ และยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ไม่ได้เป็นพื้นที่ชลประทานก็ประสบความลำบากมากในเรื่องของการทำนา โดยปัจจุบัน จ.ชัยนาท มีผู้ทำนาปีไปแล้วบางส่วนและบางส่วนก็ยังไม่ได้ทำ ซึ่งจากปัญหาภัยแล้งดังกล่าวก็ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรชาวนา 1,000,000 กว่าราย ที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งนี้ ซึ่งขณะนี้ทางรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็กำลังเร่งผลักดันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้เกษตรกร และในวันนี้ ตนเอง และ ส.ส.มณเฑียร ได้ลงพื้นที่มาดูแลประชาชนในเขต ของโครงการชลประทานทานชัยนาท หรือโครงการทุ่งวัดสิงห์ ที่นำน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยามาให้ แต่ต้องประสบปัญหา คือน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยานั้นมีปริมาณต่ำกว่าไม่สามารถไหลเข้าสู่แม่น้ำท่าจีนได้ จึงจำเป็นต้องตั้งเครื่องสูบน้ำ และส่งไปยังคลองกระทง เพื่อให้โครงการชลประทานชัยนาทนั้น กระจายน้ำไปให้เกษตรกรได้เพียงบางส่วนเท่านั้น เพราะว่าขณะนี้ปัญหาภัยแล้งได้ขนานวงกว้างไปทั่วทุกพื้นที่ ซึ่งทางหลายหน่วยงานได้ตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน 6 เครื่อง สามารถสูบน้ำได้ 130,000 ลิตร ต่อวินาที เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรในพื้นที่ได้ในระดับหนึ่ง