สธ.จ่อชง มาตรการยกระดับควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 พรุ่งนี้
8 ก.ค. 2564, 14:33
วันที่ 8 ก.ค. 64 แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยถึงมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขมีการหารือด้วยความเป็นห่วงถึงสถานการณ์ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น เสียชีวิตต่อวันสูงขึ้น ในจำนวนนี้ไม่ได้จำกัดอยู่ในวงแรงงาน หรือแคมป์คนงานต่างด้าว แต่อยู่ในลักษณะชุมชน สถานประกอบการ และผู้ติดเชื้อเป็นคนไทยสูงมาก จึงเสนอปรับมาตรการสาธารณสุขและมาตรการทางสังคมที่เข้มข้นมากขึ้น มายังศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) หรือ ศบค.ชุดเล็ก ดังนี้
1. การจำกัดการเดินทางออกนอกพื้นที่ โดยเฉพาะห้ามการเคลื่อนย้ายระหว่างจังหวัด
2. มีการตั้งจุดตรวจเพื่อลดการเคลื่อนย้าย
3. เสนอให้ปรับมาตรการ Work From Home ภาครัฐและเอกชนให้สูงสุด
4. ขอความร่วมมือเปิด-ปิดกิจการ ห้างสรรพสินค้า กิจการประเภทเดียวกัน รวมทั้งร้านสะดวกซื้อ ร้านข้าวต้มรอบดึก เพื่อลดการเคลื่อนย้าย ลดการเดินทางออกนอกพื้นที่ของประชาชน ให้5. อยู่บ้านลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
6. ปรับเวลาการให้บริการขนส่งสาธารณะ
ทั้งนี้ ที่ประชุมมีความเป็นห่วงว่าการลดเวลาต่างๆ และการปรับมาตรการต้องคำนึงถึงการคงไว้ซึ่งความจำเป็น เช่น สาธารณูปโภค อาหาร อย่างซุปเปอร์มาร์เก็ต ตลาด อาจยังจำเป็นต้องเปิด แม้กระทั่งร้านขายเครื่องมืออุปกรณ์ช่าง เช่น กรณีมีการจำกัดเวลาแล้วเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น ประชาชนจะยังคงได้รับความปลอดภัยด้วย เน้นย้ำว่าเป็นมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขหารือกัน และนำเสนอ ศบค.ชุดเล็กในวันนี้ แต่จะต้องมีการนำเสนอไปยัง ศบค.ชุดใหญ่ ซึ่งจะมีการพิจารณาในวันพรุ่งนี้ (9 ก.ค.) เวลา 10.00 น. จึงย้ำว่ามาตรการนี้ยังไม่มีผล และยังต้องปรับในรายละเอียดต่างๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ขอให้ติดตามกันในวันพรุ่งนี้
ส่วนคำถามถึงผลการประชุมสาธารณสุขที่เสนอให้ฟูลล็อกดาวน์ 14 วันห้ามออกจากบ้าน เริ่มวันศุกร์นี้ โดยผู้ช่วยโฆษก ศบค. ยืนยันไม่มีคำว่า “ล็อกดาวน์” สิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอเป็นเรื่องการปรับมาตรการ โดยจะมีรายละเอียดว่ากิจการและกิจกรรมใดมีการปรับ ระยะเวลาต้องเป็นอย่างไร พื้นที่ใด จังหวัด ยังไม่ได้เป็นข้อสรุปออก ต้องเสนอที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ เพื่อพิจารณาและอนุมัติในวันพรุ่งนี้ อย่างไรก็ตาม ทาง ศบค. เน้นย้ำเสมอว่าให้ประชาชนงดเว้นการเดินทาง ไม่แนะนำให้เดินทาง ยกเว้นกรณีมีความจำเป็น และขณะรอผลตรวจโควิด-19 ไม่ควรเดินทาง รวมถึงผู้ผลว่าติดเชื้อแล้วพยายามเดินทางกลับภูมิลำเนาไปรับการรักษา เพราะมีโอกาสแพร่กระจายเชื้อไปยังผู้อื่น แต่หากมีความจำเป็นให้ติดต่อไปยังศูนย์ประสานงานยังคนกลับบ้านที่จังหวัดปลายทาง