ขสมก.แจ้งปรับเปลี่ยนเวลาเดินรถเมล์ช่วง 14 วันเคอร์ฟิว
10 ก.ค. 2564, 15:36
10 ก.ค.64 นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ตามมติที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ครั้งที่ 9/2564 เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2564 เห็นชอบมาตรการ ควบคุม การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) โดยขอความร่วมมือประชาชน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล งดเดินทางออกนอกเคหะสถาน ตั้งแต่เวลา 21.00 - 04.00 น. และให้ระบบขนส่งสาธารณะหยุดให้บริการ ตั้งแต่เวลา 21.00 - 04.00 น.
ทั้งนี้ ขสมก. จึงจัดแผนการเดินรถโดยสาร ให้สอดคล้องกับมติที่ประชุม ศบค.โดยมีรายละเอียด ดังนี้1. ปรับเปลี่ยนเวลาการให้บริการรถโดยสาร จากเวลาปกติ เป็นให้บริการ เวลา 05.00 - 21.00 น. (เวลา 21.00 น. คือเวลาที่รถโดยสารกลับถึงอู่จอดรถ) ตั้งแต่วันที่ 12 - 25 กรกฎาคม 2564 โดยเพิ่มความถี่ในการปล่อยรถ ช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า (05.00 - 08.00 น.) และช่วงเวลาเร่งด่วนเย็นถึงเวลาก่อนรถโดยสารหยุดให้บริการ (16.00 - 21.00 น.) ให้มีระยะห่างกันไม่เกิน 5 - 10 นาที หรือจัดเดินรถให้สอดคล้องกับความต้องการใช้บริการของประชาชน
2. ให้บริการรถโดยสาร วันธรรมดา จำนวน 18,000 - 20,000 เที่ยว วันเสาร์ - วันอาทิตย์ ให้บริการรถโดยสาร จำนวน 16,000 เที่ยว หรือจัดเดินรถให้สอดคล้องกับความต้องการใช้บริการของประชาชนในแต่ละช่วงเวลา
3. ปล่อยรถโดยสารคันสุดท้าย ออกจากท่าปลายทางประมาณ 20.00 น. เพื่อให้พนักงานสามารถนำรถกลับเข้าอู่จอดรถได้ทันเวลา 21.00 น. โดยปรับเพิ่มความถี่ในช่วงการปล่อยรถ 3 คันสุดท้าย ให้มีระยะห่างกัน 5 - 10 นาที ซึ่งรถโดยสาร 3 คันสุดท้าย จะติดป้ายข้อความบ่งชี้ บริเวณหน้ารถโดยสาร ดังนี้ เหลือรถ 2 คันสุดท้าย,เหลือรถ 1 คันสุดท้ายและรถคันสุดท้าย
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือผู้ใช้บริการปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ได้แก่ การสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งขณะใช้บริการรถโดยสาร นั่งหรือยืนตามจุดที่กำหนด กรณีผู้ใช้บริการเต็มจะต้องรอใช้บริการรถโดยสารคันถัดไป
นอกจากนี้ ขอความร่วมมือผู้ใช้บริการ เตรียมตัวกลับบ้านก่อนเวลา 18.00 น. เพื่อลดความแออัดของผู้ใช้บริการบนรถโดยสาร ในช่วงเวลาก่อนรถโดยสารหยุดให้บริการ (20.00 - 21.00 น.) ซึ่งจะทำให้การดำเนินการตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมบนรถโดยสาร เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ