วันนี้ 11 ก.ค. 2564 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ลงพื้นที่อำเภอสังขละบุรี ตรวจความเรียบร้อยในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ที่จุดควบคุมการเข้า-ออก หน้าหมวดทางหลวงสังขละบุรี หลังจากที่มีคำสั่งปิดอำเภอสังขละบุรี เป็นระยะเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 9 – 22 กรกฎาคมนี้ และให้บริเวณนี้เป็นจุดคัดกรองคนที่จะผ่านเข้า-ออกพื้นที่อำเภอสังขละบุรี รวมถึงเป็นจุดเปลี่ยนถ่ายสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าอื่นๆ ที่รถขนส่งบรรทุกมา

ขณะที่บรรยากาศการเข้า-ออก อำเภอสังขละบุรี ในวันนี้ยังมีประชาชนมาแจ้งความประสงค์จะขอเข้า-ออกพื้นที่บ้างเล็กน้อย โดยส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ต้องเดินทางไปปฏิบัติราชการตามคำสั่ง ส่วนผู้ที่มีความจำเป็นและเหตุฉุกเฉิน เช่น การไปโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่อนุญาตให้เดินทางออกได้แต่ต้องกรอกเอกสารรับรองความจำเป็นในการเดินทางออกพื้นที่อำเภอ เพื่อบันทึกประวัติและข้อมูลผู้ที่เดินทางเข้า-ออก และหากเดินทางกลับเข้ามาจะต้องกักตัวเองเป็นระยะเวลา 14 วัน อย่างไรก็ตามประชาชนบางส่วนมีธุระส่วนตัวที่ต้องเดินทางไปยังพื้นที่อื่นแต่ไม่เข้าข่ายความจำเป็น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่าหากเดินทางออกไปแล้วไม่สามารถกลับเข้ามาได้อีกจนกว่าจะครบกำหนดระยะเวลาการปิดอำเภอตามคำสั่ง ส่วนรถขนส่งสินค้าอนุญาตให้นำรถเข้าไปจอดภายในหมวดทางหลวงสังขละบุรี เพื่อเปลี่ยนถ่ายสินค้าจากรถภายนอก มายังรถที่สัญจรในอำเภอสังขละบุรี โดยจะมีการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อรอบรถทุกคัน ตรวจวัดอุณหภูมิผู้ขับขี่ยานพาหนะทุกคนและให้ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์

ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องออกคำสั่งปิดอำเภอสังขละบุรี เป็นการเร่งด่วน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แม้ในพื้นที่จะมียอดผู้ติดเชื้อไม่มากนัก แต่ถ้าดำเนินการล่าช้าอาจจะทำให้เกิดการระบาดไปในวงกว้าง เพราะนอกจากอำเภอสังขละบุรีจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นแล้ว ที่กิ่งอำเภอพญาตองซู ประเทศเมียนมา ซึ่งมีเขตติดต่อกับอำเภอสังขละบุรี ก็มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันและอาจจะมีผู้ใช้เส้นทางธรรมชาติลักลอบเข้าไทย จึงต้องดำเนินการป้องกันก่อน ส่วนผู้ขนส่งสินค้าอาจจะมีความไม่สะดวกที่ต้องขนถ่ายสินค้า ขอให้อดทนในช่วงระยะเวลา 14 วันนี้ เพื่อความปลอดภัยและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ทั้งนี้ข้อเสนอแนะจากผู้ให้บริการขนส่งที่ให้ใช้วิธีการเปลี่ยนคนขับแทนการเปลี่ยนถ่ายสินค้าจะนำไปพิจารณาถึงความเป็นไปได้และความเหมาะสมต่อไป

จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้นำคณะไปยังตัวเมืองอำเภอสังขละบุรี มอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ที่หมู่ 2 บ้านวังกะ ตำบลหนองลู และประชาชนในชุมชนมอญหลังสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยอำเภอสังขละบุรี รวมถึงประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลหนองลู รวม 150 ครัวเรือน ซึ่งเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรีเป็นผู้สนับสนุนให้แก่ประชาชนในอำเภอสังขละบุรี จำนวน 200 ถุง อีก 50 ถุง จะนำไปส่งมอบให้แก่บ้านหม่องสะเทอต่อไป เพื่อบรรเทาผลกระทบในช่วงโควิด-19 และผลกระทบจากการปิดอำเภอสังขละบุรี