สาวเปิดประสบการณ์โดยสารแท็กซี่ระทึกขวัญ ทำร้องไห้ทันทีที่ก้าวลงจากรถ
13 ก.ค. 2564, 14:31
ในโลกสังคมออนไลน์ขณะนี้ มีการแชร์ส่งต่อโพสต์เตือนภัย ซึ่งถูกเผยแพร่โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "ต๋ง หม่งเหมียว ขื่อ" ได้แชร์ประสบการณ์โดยสารแท็กซี่แบบระทึกขวัญ หลังเจอพฤติกรรมประหลาด ชวนหวาดผวาของคนขับแท็กซี่รายนี้ มาตลอดทาง โดยได้โพสต์เล่าว่า เคยป่ะกลัวแทบตาย แต่ต้องคุมสติ ต้องนิ่ง แต่ในใจคืออยากกรี๊ดอีเ-ี้ย ตูมาเจออะไรวะเนี่ย เหตุการณ์มีอยู่ว่า เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2564 เราไปทำธุระแถวรัชดา ไปคนเดียว แล้วจะกลับคลองหกก็เลยเรียก bolt ให้ไปส่งที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อจะต่อรถตู้กลับคลองหก แต่โชคก็ไม่เคยเข้าข้าง รถตู้กลับคลองหกไม่วิ่งวันเสาร์-อาทิตย์แล้ว ต้องรอรถเมล์สาย 538 ถามคิวรถแถวนั้นเขาก็บอกอีกนาน แล้วด้วยสันด-นสาวทุนนิยม ทำไมฉันต้องรอ ก็เรียกแท็กซี่ไปสิคะ นี่แหละ ความบรรลัยมันอยู่ตรงนี้
คือด้วยความที่อนุสาวรีย์ชัยฯ แท็กซี่มันจะเยอะ เราก็คิดเองว่าคงไม่เหมือนแท็กซี่แถวรังสิตที่ไม่ชอบกดมิเตอร์ และถามก่อนว่ากดมิเตอร์ใช่ไหมพี่ นางก็ตอบ กดครับ เออก็อุ่นใจ จะได้กลับหอแบบสบาย ๆ ขึ้นรถมาคือปกติเลย นางถามว่าไปคลองหกฝั่งไหน ฝั่งธัญญะใช่ไหมจะกลับหอหรอ เรียนราชมงคลหรอ บลา ๆ ก็ไม่มีไรจนกระทั่งนั่งรถได้ประมาณ 10 นาที
ยกที่ 1 นางถอดแมส ลดกระจก ถุยน้ำลาย แบบไม่ใช่ถุยปกติ แต่แบบขากถุย แล้วเหมือนคนเป็นภูมิแพ้อะไรบางอย่าง ไม่ได้ถุยรอบเดียว แต่ขากๆถุยๆ แล้วรถก็ขับไป มีปล่อยมือด้วย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เค้าอาจจะคันคอ หรือภูมิแพ้ก็เป็นไปได้
ยกที่ 2 ห่างกันไม่ถึง 5 นาที เอาอีกแล้ว ลดกระจกถุยน้ำลายอีกแล้ว ควาวนี้พีคตรงนางเริ่มหงุดหงิด เริ่มด่า แต่ด่าใครไม่รู้ ไม่ใช่เราละ 1 ด่าตัวเองหรอ หรือด่าแม่ซื้อ หื๊ม.. ยังไง เริ่มกลัวละ สักพักด่าเสร็จ ปิดกระจก ใส่แมส แล้วทำท่าเหมือนจะแทงตัวเอง แทงจริง ๆ แต่ไม่มีมีด ไม่มีไร แทงทิพย์หรอแม่ หรืออะไร แบบกำกำปั้นทำท่าเหมือนจับอะไรสักอย่าง แล้วก็เหมือนแทงตัวเอง มีเสียงด้วยนะ คือกลัวมาก ตอนนั้นถึงประมาณจตุจักร ในใจคิดละ ลงเลยได้ไหม แต่ถ้าบอกให้จอดนางจะทำอะไรเราไหม คือกลัวแต่ต้องนิ่ง คุมสติ และในระหว่างที่พยายามคุมสติอยู่นั้น
ยกที่ 3 ก็ได้เริ่มขึ้น แต่คราวนี้ไม่ได้เริ่มจากการเปิดกระจกถุยน้ำลาย เริ่มด้วยการหัวเราะ ใช่แล้ว! หลังจากที่ทำท่าเหมือนแทงตัวเองเสร็จเค้านั่งหัวเราะ ไม่ได้หัวเราะก๊ากนะ หัวเราะแบบเหมือนกลั้นขำแบบสะใจ เป็นอะไร!!!! มือเราเริ่มสั่น เอาไงดี ถึงดอนเมืองละ และในระหว่างนั้น ใช่เค้าเปิดกระจก ถุยน้ำลายอีกรอบ แต่คราวนี้ปล่อยมือเลย ไม่จับแล้วพวงมาลัย ถนนเส้นนี้เป็นของตู
และยกสุดท้ายก็ได้เริ่มขึ้น ตัดสินใจจะลง เลยถามว่า ผ่านฟิวเจอร์ใช่ไหมคะ นางมองผ่านกระจกหน้า ค้างอยู่อย่างนั้นประมาณเกือบ 10 วินาที เหมือนกำลังประมวลผลว่าเราพูดอะไร แล้วก็ตอบกลับมาว่า ผ่าน เราเลยบอกว่าหนูเปลี่ยนเป็นลงฟิวก็ได้ค่ะ นางบอกผมไปส่งถึงที่ก็ได้ เราแบบ..ไม่ต้องหวังดีกับเราตอนนี้ ปล่อยเราไป เลยบอก อ่อ พอดีนัดกับเพื่อนที่ฟิวไว้ค่ะ นางคงรู้แหละว่าเราตอแ-ล จากขับปกติ นู่น เหยียบไป 120-130 เหมือนโกรธอะไรกัน ในหัวคือเราจะตายไหม แล้วด้วยความดูหนังมาเยอะ ก็โทรทิพย์ไปเลยสิคะ ตัดสินใจโทรหาแฟน แล้วก็คุยคนเดียว บอกแฟนเจอกันฟิวนะเธอ แฟนก็งงไปดิ พูดอะไร แต่นางคงรู้ถึงความผิดปกติ เพราะนี่เคยเจออะไรแบบนี้แล้ว นางก็โทรมาตลอด แต่ทางนี้กด 191 รอละแม่ แล้วระหว่างทางจากดอนเมืองสู่รังสิตเป็นอะไรที่ยาวนานสำหรับเรามาก เหมือนยกสุดท้ายเป็น Masters chapter เอาให้สุด ใส่มาทั้งหมด ทั้งหัวเราะ ถุยน้ำลาย มีปล่อยพวงมาลัยเต้นด้วย เต้นแบบไม่ได้เปิดเพลง เต้นไปด้วย หัวเราะไปด้วย พร้อมเหยียบ 120+
พอถึงฟิวนางก็จอด และสิ่งที่นางหยิบขึ้นมาตอนกำลังควักเงินในกระเป๋า คือ ปืนไฟแช็ก แล้วก็ถือเหมือนปืนจริง ข้าน้อยเชื่อว่าเกินครึ่งในนี้ งง หยิบมาทำไม และทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำมาตลอดทาง ทำ ทำไม
พอก้าวขาลงจากรถเท่านั้นแหละ ร้องไห้อย่างหมา โทรหาแฟน พูดไม่รู้เรื่อง คือช็อคมากกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเจอ วันนี้ยังถามตัวเองอยู่เลยว่าเรื่องจริงหรอ ที่มาโพสต์เนี่ยอยากเตือนสำหรับคนที่ใช้ขนส่งสาธารณะ ถ้าเจออะไรสติต้องมาก่อน นิ่งสู้
ล่าสุดเราโทรไปร้องเรียนแล้ว ไม่อยากให้ใครมาเจออะไรแบบนี้ คือเราไม่รู้ว่าเค้าไม่ปกติ หรือป่วย หรืออะไร แต่เหตุการณ์ที่เราเจอมันแย่จริงๆ เราสติหลุดไปเลย นี่จิตใจเพิ่งปกติ เลยมาเล่าเรื่องได้
แท็กซี่ทะเบียนตามรูปเลย เรารวบรวมแรง และสติทั้งหมดที่มี กดถ่ายไว้ได้ เสียดายไม่ได้ถ่ายพฤติกรรมกับหน้าบัตรไว้ มีสติประคองตัวเองออกมาจากตรงนั้นคือก็เทพแล้ว