"เลขาฯ กสม." รับเรื่องร้องเรียน กรณี “นายเอกชัย อิสระทะ” ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์กักขัง ในการร่วมเวทีประชาพิจารณ์ประทานบัตรเหมืองหิน จ. พัทลุง
20 ส.ค. 2562, 10:09
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 19 ส.ค. 62 ผู้สื่อข่าว ONBnews รายงานว่าที่ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นายเอกชัย อิสระทะ เลขาธิการคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) เดินทางเข้าพบนายโสพล จริงจิตร เลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ รับเรื่องร้องเรียนกรณีถูกกลุ่มชายฉกรรจ์กักขังหน่วงเหนี่ยวเพื่อไม่ให้เข้าร่วมการประชุมรับฟังความคิดเห็นการขอประทานบัตรทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรม จังหวัดพัทลุง เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมาโดยขอให้สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ดำเนินการดังนี้
(1) ดำเนินการประสานการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชน อันมีหลักการและแนวปฏิบัติตามปฏิญญาว่าด้วยสิทธิและความรับผิดชอบของปัจเจกบุคคล กลุ่มบุคคล และองค์กรของสังคม
(2) ตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนกรณีถูกข่มขู่ คุกคาม
(3) ตรวจสอบกระบวนการรับฟังความคิดเห็นการขอประทานบัตรเหมืองแร่ดังกล่าวว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่
นายโสพล กล่าวภายหลังรับเรื่องร้องเรียนว่า การส่งเสริมและคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชน มีการกำหนดแนวทางปฏิบัติในปฏิญญาว่าด้วยสิทธิและความรับผิดชอบของปัจเจกบุคคล กลุ่มบุคคล และองค์กรของสังคม ซึ่งถือเป็นเสรีภาพขั้นพื้นฐานอันเป็นที่ยอมรับอย่างสากล ปัจจุบันรูปแบบการคุกคามนักปกป้องสิทธิมนุษยชนมีหลากหลายขึ้น เช่น โทรศัพท์ข่มขู่ การไปที่บ้านหรือการเข้าหาครอบครัว เพื่อให้เกิดความหวาดกลัว การดักฟังโทรศัพท์ ติดตามความเคลื่อนไหว การเสนอผลประโยชน์ การอุ้มฆ่าหรือการลอบสังหาร หรือ การฟ้องร้องเพื่อยุติการเคลื่อนไหวที่เรียกว่า “การดำเนินคดีทางยุทธศาสตร์เพื่อระงับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมสาธารณะ (SLAPP)” เป็นต้น
โดยที่ผ่านมาคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการคุกคามนักปกป้องสิทธิมนุษยชนหลายกรณี ซึ่ง กสม. ได้ตรวจสอบและจัดทำข้อเสนอแนะถึงคณะรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหามาตรการป้องกัน แต่ปัจจุบันยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก
“สำหรับกรณีนายเอกชัย สำนักงาน กสม. จะเร่งดำเนินการประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อคุ้มครองสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะในกระบวนการชี้ตัวผู้ถูกกล่าวหาซึ่งจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของนายเอกชัยเป็นสำคัญ รวมทั้งประสานการคุ้มครองไปยังกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เพื่อให้ดำเนินการเรื่องการคุ้มครองพยานและการเยียวยาผู้ถูกละเมิด นอกจากนี้ จะมีหนังสือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอให้ทบทวนการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นประกอบการพิจารณาให้ประทานบัตรกรณีดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้มีส่วนร่วมอย่างแท้จริงตามที่รัฐธรรมนูญให้การรับรอง” นายโสพล กล่าว