วันที่ 15 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 82 หมู่ 6 ต.หนองบัวดง  อ.ศิลาลาด จ.ศรีสะเกษ นายไตรรัตน์ เครือบุดดีมหาโชค  นายอำเภอศิลาลาด พร้อมด้วย  นายสุบรรณ์  จันทาทอง ปลัด อบต.หนองบัวดง  น.ส.ชลดา สายสมุทร  รองปลัด อบต.หนองบัวดง  นายนิพนธ์  ศรีดี  ผอ.รพ.สต.หนองบัวดง  นางพัชรีวรรณ  สีมาขันธ์  ผอ.กศน.อำเอภศิลาลาด  และนายมหินทร  เทพิน  เกษตรอำเภอศิลาลาด ได้เดินไปตรวจสอบกรณีที่มีข่าวเผยแพร่ทางสื่อโชเซียลว่า นายสุริยา เจ้าของบ้านอ้างตนเองว่า เป็นนักธรรมองค์พระโพธิสัตว์พระองค์ใหม่ โดยมีชาวบ้านหมู่ 6 และญาติพี่น้องของนายสุริยา  ร่วมให้การต้อนรับ และนำตรวจสอบหนุ่มที่อ้างตนเองว่า เป็นนักธรรมองค์พระโพธิสัตว์พระองค์ใหม่ ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบว่า มีประชาชนใกล้เคียงหรือจากหมู่บ้านอื่นมากราบไหว้และให้ความเคารพศรัทธาแต่อย่างใด  โดยหนุ่มเจ้าของบ้านจะอยู่ภายในบ้านชั้นเดียวที่ก่อด้วยอิฐบล็อคตามลำพัง ด้านหน้าบ้านมีรูปภาพเกี่ยวกับการสอนนั่งสมาธิติดอยู่ จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า หนุ่มที่อ้างตนเองว่าเป็นพระศาสดาองค์ใหม่ ซึ่งนายสุริยา อายุ 49 ปี เป็นนักปฏิบัติธรรมสมาธิด้วยตนเอง และมีความเชื่อว่า การทำสมาธินั้น มี 4 ขั้น เมื่อทำสมาธิถึงขั้นที่ 4 แล้ว ก็จะสามารถบรรลุเห็นทางสว่างในชีวิต พ้นทุกข์ ด้วยตนเอง โดยนายสุริยา ได้อธิบายแผนภูมิที่ติดข้างผนังบ้านให้คณะที่มาได้รับทราบ 

นายสุริยา หนุ่มที่อ้างตนเองว่าเป็นนักธรรมองค์พระโพธิสัตว์พระองค์ใหม่ กล่าวว่า ตนเองปฏิบัติธรรมมานานกว่า 20 ปีแล้ว และได้เชื่อว่า หากปฏิบัติตามขั้นตอนที่ตนเองปฏิบัติมาแล้วจะทำให้ผู้ปฏิบัติทุกคนบรรลุเห็นธรรมด้วยตนเอง แม้ว่าจะไม่ได้บวชเป็นพระก็ตาม  เหตุตนห่มผ้าขาวนั้นเพราะว่า เป็นสีของฝ่ายมหายาน ส่วนที่นั่งผ้าสีน้ำเงินเพราะว่า เป็นฝ่ายหินยาน นำเอามารวมกัน  หลักการแนวคิดต่าง ๆ ตนเขียนขึ้นมาเองทั้งสิ้น หากผิดตนก็พร้อมที่จะยอมรับผิด  คนที่มาปฏิบัติธรรมด้วย ตนไม่ได้เรียกร้องเงินทองแต่อย่างใด  หากว่ามีมาอีกครั้งหน้าก็จะขอค่ายกครูเล็กน้อย  ซึ่งตนไม่ได้หลอกลวงต้มตุ๋นประชาชนแต่อย่างใด

เพื่อนบ้านคนหนึ่ง กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า นายสุริยา  มีลูกเมียแล้ว  แต่ต่อมามีอาการไม่ค่อยปกติ จากนั้นไม่พบว่า มีลูกเมียมาหาแต่อย่างใด  นายสุริยา จะชอบอยู่ตามลำพังคนเดียว มีเด็ก ๆ นักเรียนแวะเวียนมาหาบ้างเพราะว่าบ้านอยู่ติดรั้วโรงเรียน แต่ว่า นายสุริยา ไม่เคยไปทำให้ใครได้รับความเสียหาย เดือดร้อน  จะมีเพียงอาการที่เกิน 100 ของคนทั่วไปเท่านั้นเอง  แต่อย่างไรก็ตามตนขอฝากถึงประชาชนที่ทราบเรื่องนี้ว่า ไม่ควรที่จะหลงเชื่องมงาย เพราะพระพุทธเจ้าสอนให้เชื่อในสิ่งที่มีเหตุและผลที่เป็นสัจธรรมความจริงเท่านั้น 

ทางด้าน นายอำเภอศิลาลาด กล่าวว่า ในวันนี้ ตนเองได้ทราบข่าวจากสื่อโซเชียล จึงได้เดินทางมาตรวจสอบข้อเท็จจริง ปรากฏว่า นายสุริยา สภานุภาพ   เป็นนักปฏิบัติธรรมสมาธิด้วยตนเองทั่วไป จึงได้ตักเตือนให้ระมัดระวังในการปฏิบัติตน อย่าทำเรื่องที่ผิดกฎหมายใด ๆ โดยเฉพาะอย่างอย่าหลอกลวงต้มตุ๋นประชาชนเพราะว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นไม่พบว่า นายสุริยา กระทำผิดกฎหมายแต่อย่างใด และขอเตือนประชาชนว่าอย่าได้หลงเชื่อการกระทำที่ไม่ถูกต้องอย่างเด็ดขาด