รองผบช.น.เผยอยู่ระหว่างพิจารณา 25 คนดัง Call out เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่
22 ก.ค. 2564, 15:27
วันที่ 22 ก.ค. 2564 พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) เปิดเผยถึงกรณีที่นายสนธิญาณ สวัสดี อดีตผู้สมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ นำรายชื่อศิลปินและนักแสดงกว่า 20 คน มาร้องทุกข์ให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พิจารณามีความผิดหรือไม่ หลังจากที่กลุ่มนักแสดงเหล่านี้ใช้ชื่อทางสื่อสังคมออนไลน์ของตัวเองกล่าวพาดพิงกับบุคคลทางการเมืองและรัฐบาล ว่า ส่งเรื่องดังกล่าวให้กับพนักงานสอบสวนในแต่ละพื้นที่ดำเนินการตามกฎหมาย โดยจะแบ่งเป็นสองส่วน คือ กรณีมีการกล่าวพาดพิงเฉพาะบุคคล และหากเข้าข่ายความผิดหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ก็จะแจ้งให้ผู้ที่ถูกกล่าวหาไปร้องทุกข์กล่าวโทษกับบุคคลที่กล่าวหา ส่วนข้อหาใดที่ตำรวจสามารถร้องทุกข์ได้ เช่น ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบฯ ก็จะดำเนินคดีได้หากมีหลักฐานชัดเจน
ขณะนี้ตำรวจมีรายชื่อศิลปิน นักแสดง ที่อยู่ในการพิจารณาแล้วประมาณ 25 คน แต่ยังไม่ยืนยันว่าทั้งหมดจะถูกดำเนินคดี โดยจะมีการพิจารณาความผิดเป็นรายบุคคล ว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตหรือไม่ ส่วนกรณีนางสาวดนุภา คณาธีรกุล หรือมิลลิ นักร้องและแรปเปอร์ ถูกพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง เรียกมารับทราบข้อกล่าวหานั้น เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และมีเจ้าทุกข์มาร้องทุกข์กล่าวโทษไว้แล้ว
ด้าน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้โพสต์คลิประบุว่า ฝากไปยังดารานักแสดงทุกคน ท่านเป็นที่รักของประชาชน ท่านพูดแล้วประชาชนเชื่อ พวกเราก็มาช่วยกันคลี่คลายสถานการณ์โควิดให้เร็วที่สุด เราจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือและกำลังใจซึ่งกันและกัน เราต้องร่วมแรงร่วมใจสู้ภัยโควิด บนพื้นฐานความปลอดภัย และ ความรับผิดชอบต่อสังคม มาช่วยกันนะครับ
เท่าที่ได้ดูการ Call out ออกมาเรียกร้องต่างๆ ของดารายังไม่เข้าข่ายความผิด เป็นการเรียกร้องถึงปัญหาความไม่พอใจต่างๆ ที่มีต่อรัฐบาลในการแก้ปัญหาของโควิด เราก็เข้าใจ เพราะวันนี้ไม่ใช่แค่ดารา ทุกกลุ่มทุกอาชีพก็ได้รับความเดือดร้อนกันหมด จึงมีการแสดงความคิดเห็นในเชิงที่ไม่พอใจ รัฐบาลก็เข้าใจ
เพียงแต่ผมมองว่าดารานักแสดงนักร้องเขาเป็น Influencer เป็นคนสาธารณะ เป็นคนที่พี่น้องประชาชนรักและศรัทธา เมื่อพูดอะไรในสิ่งที่ไม่ครบถ้วน ประชาชนเชื่อไปแล้วเราก็แก้ไขยาก จึงต้องให้ความเป็นธรรมกับอีกฝ่ายหนึ่งด้วย ต้องให้ข้อมูลที่รอบด้านเพื่อให้ประชาชนได้ข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นความจริงจากทั้งสองฝ่าย
ยืนยันว่าประชาชนทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ตามระบอบประชาธิปไตย แต่ขอให้เป็นความคิดเห็นที่บริสุทธิ์ และถ้าเป็นความเดือดร้อนของประชาชน หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างไร รัฐบาลก็รับฟัง และที่ผ่านมารัฐบาลก็ปรับเปลี่ยนการดำเนินนโยบาย โดยเฉพาะเรื่องโควิด ได้ปรับตามสถานการณ์ และตามข้อเรียกร้องของประชาชนมาตลอด