ชาวนาสุรินทร์ครวญ ฝนแล้งต้นข้าวแห้ง-วัชพืชขึ้นแทน เผยปีนี้ลำบากแน่ ข้าวสารแพง
21 ส.ค. 2562, 12:20
วันนี้(21 ส.ค.62) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า สภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ในขณะนี้ยังปรากฏสภาพความแห้งแล้ง และฝนทิ้งช่วงมายาว นานกว่า 2 เดือน ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ใน 17 อำเภอ แม้ว่าในช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝน เดือน 8 สิงหาคม หรือที่ชาวบ้านเรียกตามเดือน ปฏิทินไทยว่า เดือน 9 ซึ่งเป็นช่วงหน้าฝน ฝนจะตกลงมาเพื่อทำการเกษตร ในระบบนาปีโดยชาวนาจะปลูกข้าวตั้งแต่เดือน แต่ปลายเดือนพฤษภาคม และสิ้นสุดการปลูกข้าวในช่วงเดือน สิงหาคม จากนั้นก็จะเก็บเกี่ยวข้าวในช่วงปลายเดือน ตุลาคม ไปถึงเดือนพฤศจิกายน ในทุกๆปี แต่ที่จังหวัดสุรินทร์ ปรากฏว่า เกิดสภาพความแห้งแล้งเพราะฝนที่ตกลงมา มีปริมาณน้อย แหล่งนี้ ลำห้วย หนองน้ำในหมู่บ้าน ตามทุ่งนา หรือแม้แต่อ่างเก็บน้ำขนากกลาง ขนาดใหญ่ ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ น้ำแห้งขอด กระทบทั้งการผลิตน้ำประปา เลี้ยงคนในชุมชน
ในช่วงแม้ว่าจะมีฝนตกลงมาบ้างในช่วงนี้ ก็เป็นฝนเทียมหรือฝนหลวง ซึ่งมีปริมาณที่น้อย ไม่เพียงพอต่อพื้นที่การเกษตร โดยเฉพาะพื้นที่นาในจังหวัดสุรินทร์ พื้นที่ปลูกข้าวหอมมะลิ กข 15 และ กข 105 เป็นส่วนใหญ่ และสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ชาวนา ใช้น้ำจากฝนที่ตกจากธรรมชาติ ที่มีปริมาณมาก เพียงพอต่อการทำนา การเกษตรทั่วไป ในช่วงหน้าฝน แต่ปีนี้ เกิดสภาวะภัยแล้ง ฝนไม่ต้องต้องตามฤดูกาล
พื้นที่การปลูกข้าว ในเขตอำเภอศีขรภูมิ ตำบลยาง และอีกหลายตำบล เขตอำเภอสำโรงทาบ เขตเทศบาลตำบลสำโรงทาบ ตำบลหนองฮะ เทศบาลตำบลหมื่นศรี รอยต่อกับเขตอำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ สังเกตสองข้างทางหลวงสาย 226 สุรินทร์ –ศรีสะเกษ จะพบว่าพื้นที่ปลูกข้าวหอมมะลิ ที่นามีสภาพความแห้งแล้งต้นข้าวหอมมะลิเหี่ยวแห้งยืนต้นตาย เป็นบริเวณกว้าง เนื่องจากขาดน้ำฝนเลี้ยงต้นข้าว ตั้งแต่บริเวณด้านข้างโครงการศูนพัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ ต.สำโรงทาบ อ.สำโรงทาบ เลื่อยไปจนถึง เขตบ้านกระเลา บ้านศรีพัฒนา เทศบาลตำบลหมื่นศรี อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ ต้นกล้าข้าวขาดน้ำยืนต้นแห้งตาย แม้ว่าจะมีฝนตกลงมาบ้าง ไม่ปริมาณไม่มากพอที่จะเลี้ยงต้นข้าวและใส่ปุ๋ยให้หงอกงามได้ ชาวนาได้แต่มองและเห็นความเสียหายที่จะตามมา
คุณอายุ อายุ 72 ปี ชาวนาบ้านศรีพัฒนา เทศบาลตำบลหมื่นศรี กำลังเกี่ยวหญ้า ที่ขึ้นแทนต้นข้าวในแปลงนา เอาไปเลี้ยงวัว ควาย ที่บ้าน บอกว่า ปีนี้แห้งแล้งมาก ข้าวที่หว่านไว้ แห้งตายเกือบหมดแล้ว แต่ที่เห็นเขียวๆคือต้นหญ้าที่ขึ้นแทนต้นข้าว ตอนแรกก็ใช้วิธีตัดต้นหญ้าและต้นข้าวออก เพราะต้นหญ้าขึ้นมาแซมต้นข้าวเยอะ พอตัดแล้วฝนไม่ตกมา ต้นข้าวก็ไม่ขึ้นแต่มีต้นหญ้ามาแทน เลยมาเกี่ยวหญ้าไปวัว ควาย ปีนี้สิ้นหวังแล้ว น้ำไม่มีให้ต้นกล้าข้าว หนองน้ำกะเลา อีกฝั่งหนึ่งเริ่มแห้ง อีกฝังยังพอมีน้ำ ชาวบ้านที่มีนาติดลำน้ำกะเลาก็สูบน้ำเข้านา คนที่ไม่มีนาใกล้ลำห้วยก็ปล่อยไปตามยถากรรมต้นข้าวจะตายหมดแล้ว ปีนี้แล้งมาก ข้าวเปลือกข้าวสาร ต้องแพงมากแน่นอน ชาวนาที่ขายข้าวเปลือกปีที่แล้วไปหมดแล้วก็คงลำบากแน่ๆต้องชื้อข้าวสารแพงมาหุงกิน เดือนนี้เดือน 9 แล้ว จะเข้าเดือน 10 ยังไม่มีฝนไม่มีน้ำ ชาวนาตายแน่ๆปีนี้