วันนี้ ( 25 ก.ค.64 ) นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า แม้ประเทศไทย  จะเข้าสู่ช่วงฤดูฝนเป็นระยะเวลากว่า 2 เดือนแล้ว แต่บางพื้นที่ยังมีปริมาณฝนตกลงมาน้อย ทำให้แหล่งน้ำต้นทุนหลายพื้นที่ยังมีปริมาณน้ำน้อยกว่าเกณฑ์ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ถือว่าเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ที่จะมาช่วยลุ่มเจ้าพระยา ส่งผลให้ประชาชนและเกษตรกรทุกภาค มีความต้องการปริมาณน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและเพื่อการเกษตรอยู่เป็นจำนวนมาก หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจึงยังมีความจำเป็นต้องปฏิบัติการบินฝนหลวงทันทีที่สภาพอากาศเอื้ออำนวยและร่วมมือกับกรมชลประทาน วางแผนเติมน้ำต้นทุนในแหล่งกักเก็บน้ำขนาดกลาง ละขนาดใหญ่ รวมถึงในเขื่อนหลักของประเทศ ยังพบว่ามีปริมาณน้ำต้นทุนน้อยกว่าร้อยละ 30 อยู่ประมาณ 18 แห่ง เพื่อให้ประชาชนได้มีปริมาณน้ำต้นทุนใช้ไปจนถึงหน้าแล้งปีหน้าหรือประมาณเดือนพฤศจิกายน  2565 และยังได้ขอความร่วมมือประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อรักษาน้ำต้นทุนให้สามารถใช้น้ำได้อย่างต่อเนื่อง

อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ยังเปิดเผยถึงมาตรการปฏิบัติการบินฝนหลวงในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่า เจ้าหน้าที่ยังคงขึ้นปฏิบัติการบินฝนหลวงในแต่ละพื้นที่ทั้ง 13 แห่ง อย่างเข้มงวด หากพบหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงติดเชื้อจะทำให้หยุดปฏิบัติการทันที จึงเข้มงวด ห้ามบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมปฏิบัติการบินเพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ