น้องชายเกินรับไหว ! "พ่อ - พี่สาว" เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 ห่างกันเพียง 3 วัน
27 ก.ค. 2564, 07:04
เมื่อเวลา 22.45 น.วันที่ 26 ก.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณเมรุเผาศพของวัดแห่งหนึ่งอยู่ในเขต อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้มีนายปิยะ ยศศิริ อายุ 38 ปี ชาวบ้านดอนแก้ว ต.โนนค้อ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วยญาติพี่น้อง พากันมารอเพื่อประกอบพิธีฌาปนกิจศพ น.ส.รัตนา อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวของนายปิยะ และได้เสียชีวิตเมื่อช่วงเวลา 19.40 น.ของวันนี้ โดยเป็นศพที่ 13 ที่เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 ของ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งญาติได้มีการนิมนต์พระสงฆ์ จำนวน 4 รูป มาประกอบพิธีทางศาสนา ซึ่งต่อมารถกู้ชีพของมูลนิธิสว่างจิตต์ธรรมสถานได้นำศพของ น.ส.รัตนา ซึ่งบรรจุอยู่ในโลงศพมาถึงบริเวณเมรุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยซึ่งสวมชุดป้องกัน (PPE) ได้นำศพของ น.ส.รัตนาขึ้นไปบนเมรุและได้ทำการกดปุ่มเผาศพทันที จากนั้นได้ทำการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อรอบบริเวณเมรุและสิ่งของต่าง ๆ
นายปิยะ ยศศิริ อายุ 38 ปี น้องชายของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ครอบครัวของตนพากันไปประกอบอาชีพขายอาหารตามสั่งจำพวกส้มตำ ลาบก้อย อยู่ที่ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ต่อมามีการปิดตลาดสมุทรสาครหลายแห่ง โดยพ่อกับพี่สาวได้ติดเชื้อโควิด-19 พวกตนจึงได้พากันกลับมาบ้านโดยรถส่วนตัว ต่อมาวันที่ 28 มิ.ย.64 พ่อของตนคือนายชาญวิทย์ ยศศิริ อายุ 67 ปี ซึ่งมีอาการป่วยหนัก ได้ไปตรวจรักษาที่ รพ.โนนคูณ แต่เนื่องจากว่ามีการอาการป่วยหนักมาก แพทย์ รพ.โนนคูณ จึงได้ส่งต่อมาที่ รพ.ศรีสะเกษ และได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 ก.ค.64 เป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 10 ของ จ.ศรีสะเกษ ด้วยโรคโควิด-19 โดยได้ทำการฌาปนกิจศพพ่อของตนที่วัดแห่งนี้
และต่อมา น.ส.รัตนา อายุ 40 ปี พี่สาวของตนก็ได้ติดเชื้อโควิด-19 จึงได้มาเข้ารับการรักษาพยาบาลที่ รพ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.64 จนกระทั่งวันนี้ (26 ก.ค.64) เวลา 19.40 น.พี่สาวของตนก็ได้เสียชีวิตไปอีกคน เป็นรายที่ 13 ที่เสียชีวิตด้วยโรคเดียวกันนี้ ครอบครัวของตนมีด้วยกัน 6 คน ได้ติดเชื้อโควิด-19 รวม 4 คน แต่แฟนของตนกับลูกรักษาตัวดีมาก จึงไม่ได้ติดเชื้อแต่อย่างใด มีเพียงพ่อ แม่ พี่สาว และตนที่ติดเชื้อ ทำให้พ่อกับพี่สาวเสียชีวิตในระยะเวลาห่างกันเพียง 3 วันเท่านั้น ทำให้ตนเกินที่จะรับได้ เพราะสูญเสียคนที่รักในครอบครัวติดต่อกัน ตนได้กักตัวเกินกว่า 16 วัน และรักษาหายแล้ว ส่วนแม่อายุ 62 ปี ซึ่งติดเชื้อ เพิ่งกักตัวและรักษาตัวได้ประมาณ 6 วัน สำหรับอัฐิของพ่อที่ฌาปนกิจไปเมื่อวันที่ 23 ก.ค.64 ตนได้นำเอาอัฐิไปไว้ที่วัดบ้านเกิด และอัฐิของพี่สาวตนที่ฌาปนกิจในวันนี้ ก็จะนำอัฐิไปไว้ที่วัดเดียวกัน หลังจากที่แม่ของตนพ้นกำหนดเวลากักตัวแล้ว จึงจะได้ประกอบพิธีทางศาสนาอุทิศส่วนกุศลให้กับพ่อกับพี่สาวต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้ในช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. ของวันเดียวกันนี้ ที่วัดแห่งนี้ก็ได้มีการฌาปนกิจศพของชาย อายุ 46 ปี ชาว อ.ห้วยทับทัน ที่เสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 26 ก.ค.64 ด้วยโรคโควิด-19 เป็นรายที่ 11 ของ จ.ศรีสะเกษ ต่อมาเวลา 19.00 น. เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างจิตต์ฯ ได้นำศพชายอายุ 64 ปี เป็นชาว อ.ศิลาลาด จ.ศรีสะเกษ ที่เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 เป็นรายที่ 12 ไปฌาปนกิจที่วัดแห่งหนึ่งในเขต ต.หนองไผ่ อ.เมืองศรีสะเกษ และในเวลา 19.40 น.วันนี้ (26 ก.ค.64) น.ส.รัตนา ก็ได้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 เป็นรายที่ 13 และได้นำศพมาฌาปนกิจในช่วงเวลาประมาณ 22.45 น. ทำให้วันเดียวกันนี้มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 ของ จ.ศรีสะเกษ มีจำนวนมากถึง 3 รายด้วยกัน นับว่าเป็นนิวไฮของการเสียชีวิตมากที่สุดของ จ.ศรีสะเกษนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ