สภากาชาดไทย ออกหน่วยตัดแว่นสายตาเคลื่อนที่ แก่เด็กนักเรียนในชนบท จ.ชุมพร
21 ส.ค. 2562, 15:54
จังหวัดชุมพร โดยสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดชุมพร ร่วมดำเนินโครงการรถตัดแว่นสายตาเคลื่อนที่สภากาชาดไทย เพื่อเด็กนักเรียนในชนบท ของสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย ได้ออกหน่วยตัดแว่นสายตาเคลื่อนที่ ระหว่างวันที่ 20 - 22 สิงหาคม 2562 ณ จังหวัดชุมพร โดยตรวจวัดสายตา พร้อมตัดแว่น ให้กับเด็กนักเรียนที่มีปัญหาทางสายตา กว่า 1,400 คน จาก 93 โรงเรียนในพื้นที่จังหวัดชุมพร
โดยสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย ใช้รถตัดแว่นสายตาเคลื่อนที่เป็นรถบัสใหญ่ ออกแบบภายในและพร้อมอุปกรณ์เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ เพื่อประกอบแว่นสายตาบนรถได้ทันที ในการออกไปปฏิบัติงานตรวจวัดสายตาและประกอบแว่นสายตาให้เด็กนักเรียนในพื้นที่เป้าหมาย เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ด้วยการตรวจวัดสายตาและประกอบแว่นสายตา ให้นักเรียนได้รับแว่นสายตาในวันเดียวกัน โดยไม่คิดมูลค่าใด ๆ ซึ่งได้ลงพื้นที่จังหวัดชุมพร ระหว่างวันที่ 20 - 22 สิงหาคม 2562 และดำเนินการในพื้นที่ชุมพรตอนล่าง ตั้งจุด ณ โรงเรียนสวนศรีวิทยา อำเภอหลังสวน ส่วนพื้นที่ชุมพรตอนบนดำเนินการ ณ ที่ว่าการอำเภอปะทิว และดำเนินการในพื้นที่ตัวเมือง ณ ศูนย์ราชการจังหวัดชุมพร
นางเพ็ญจันทร์ รัตนาภรณ์วงศ์ เปิดเผยว่า ความผิดปกติทางสายตาของเด็กนักเรียนในชนบท เป็นปัญหาสำคัญที่ยังไม่ได้รับการดูแล และแก้ไขเท่าที่ควร เนื่องจากครู ผู้ปกครองและนักเรียนขาดความรู้ความเข้าใจ ปัญหาทางเศรษฐกิจ ปัญหาการขาดแคลนจักษุแพทย์ ตลอดจนการขาดแคลนร้านแว่นตาที่มีคุณภาพในท้องถิ่นห่างไกล เด็กนักเรียนในชนบทจำนวนมากจึงมองเห็นไม่ชัดเจน เป็นเหตุให้ขาดประสิทธิภาพในการเรียนและการดำเนินชีวิต ไม่ได้รับการพัฒนาทางสติปัญญาเท่าที่ควร ส่งผลให้เด็กกลุ่มนี้ด้อยโอกาสในหลาย ๆ ด้าน สภากาชาดไทย โดยสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้จัดทำ โครงการรถตัดแว่นสายตาเคลื่อนที่สภากาชาดไทยเพื่อเด็กนักเรียนในชนบท ขึ้น เพื่อให้เด็กนักเรียนมีความสามารถในการมองเห็นได้เป็นปกติ มีโอกาสในการเรียนและดำเนินชีวิตเช่นเดียวกับเด็กทั่วไป สามารถช่วยเหลือตนเองครอบครัว และสังคมได้ทั้งในปัจจุบันและอนาคต นับเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่สำคัญและมีผลในระยะยาวต่อการพัฒนาประเทศชาติ และนอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมการประสานงานและความสามัคคีระหว่างสภากาชาดไทยกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ที่ปฏิบัติงานอันเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมร่วมกัน อีกด้วย