"อำเภอไทรโยค" เดือดร้อนหนัก ฝนตกติดต่อกันหลายวัน เกิดน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน
29 ก.ค. 2564, 08:21
วันที่ 29 ก.ค. 2564 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายสาวิตร เจียมจิระพร นายอำเภอไทรโยค พร้อมด้วย ส.ส. อัฏฐพล โพธิพิพิธ และผู้นำท้องถิ่นต้องเร่งนำสิ่งของจำเป็นไปแจกจ่ายแก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำป่าไหลท่วมบ้านเรือน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น น้ำที่ท่วมในครั้งนี้ทั้งถนน สะพาน พืชไร่ เสียหายเป็นจำนวนมาก ประชาชนไม่สามารถเข้าออกมาพบโลกภายนอกได้เวลานี้ ต้องใช้เรือเป็นพาหนะเพียงเท่านั้น แต่ก็เป็นอันตรายจากกระแสน้ำที่เชี่ยวหลาก
จากการออกร่วมตรวจติดตามและเยี่ยมเยียนราษฎรบ้านแม่น้ำน้อย ที่ได้รับผลกระทบจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดผ่านจังหวัดกาญจนบุรี ทำให้ฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน น้ำป่าที่สะสมทะลักลงสู่แม่น้ำน้อย มวลน้ำทำให้ระดับน้ำแม่น้ำน้อย สูงขึ้น อย่างรวดเร็ว อยู่ในระดับ 6 เมตร จากระดับเดิม น้ำแม่น้อยสูงเพียง 3 เมตร จึงทำให้ราษฏรบริเวณดังกล่าวมีความเดือดร้อนอย่างมาก ไม่สามารถสัญจรไป-มา และขนส่งผลิตการเกษตรได้ตามปกติ ต้องสัญจรโดยทางเรือข้ามฝั่งแม่น้ำน้อย ท่ามกลางกระแสที่น้ำที่ไหลเชี่ยวกราก อันอาจอันตรายต่อชีวิต ทรัพย์สินได้ ในการนี้ นายอำเภอไทรโยค และคณะ จึงได้บูรณาการออกไปเยี่ยมเยียนราษฎรบ้านแม่น้ำน้อย เบื้องได้มอบถุงยังชีพเครื่องอุปโภค-บริโภคแก่ราษฎรแม่น้ำน้อย หมู่ที่ 5 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี และคาดการณ์ ถ้าฝนไม่ตกอย่างต่อเนื่อง ประมาณอีก 2-3 วัน ระดับน้ำจะลดลง ราษฎรจะสามารถสัญจรได้ตามปกติ
ทั้งนี้ นายอำเภอไทรโยค ได้กำชับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและติดตามช่วยเหลือราษฎรอย่างใกล้ชิดจนกว่าระดับน้ำจะกลับคืนสู่ภาวะปกติ ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาว นายอำเภอจะได้ประชุมส่วนราชที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนต่อไป เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวตั้งอยู่เขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค และเกิดสาธารภัยน้ำท่วมเส้นทางสัญจรของราษฎรทุกปี
นอกจากความเดือนร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วมแล้ว นายสาวิตร เจียมจิระพร นายอำเภอไทรโยค ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่จุดตรวจ-จุดสกัดป้องกันแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและป้องกันการแพร์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด - 19 บริเวณจุดตรวจท่าข้ามสุด หมู่ที่ 8 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่รวมถึงผู้นำท้องถิ่น ชรบ. อสม.และได้มอบสิ่งของแก่เจ้าหน้าที่ปฎิบัติงานบริเวณด่านจุดตรวจดังกล่าว และบูรณาการร่วมกัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID2019)