วันที่ 29 ก.ค. 64 เวลา 11.30 น. ณ ท่าอากาศยานนครพนม พลตรี สามารถ จินตสมิทธิ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 (ผบ.มทบ.210) นายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายสมชัย นำโชคประเสริฐ นักวิชาการขนส่งชำนาญการ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการท่าอากาศยานนครพนม นายแพทย์ขวัญชัย ประเสริฐยิ่ง รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม ฝ่ายเวชกรรมป้องกัน และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องร่วมกันจัดเตรียมสถานที่บริเวณท่าอากาศยานนครพนม และศูนย์พักคอยเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการรับช่วงต่อจากกองทัพบก ที่ได้ให้การสนับสนุนเครื่องบินลำเลียง 295 ส่งผู้ป่วยโควิดจากพื้นที่สีแดงเข้มกลับบ้านที่นครพนม ซึ่งในวันนี้เป็นเที่ยวบินแรกที่นำส่งผู้ป่วยที่นครพนม จำนวน 18 ราย ในจำนวนนี้มีแม่ลูกอ่อนวัยเพียง 3 เดือนรวมอยู่ด้วย

พลตรี สามารถ จินตสมิทธิ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด–19 ทำให้ทีมแพทย์ต้องรับมือและแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งค่อนข้างที่จะมีข้อจำกัดในด้านจำนวนบุคลากร ดังนั้นจึงได้มีการส่งต่อผู้ป่วยไปตามพื้นที่ต่างๆของในแต่ละจังหวัดเพื่อแบ่งเบาภาระ ซึ่งทางรัฐบาลและกองทัพบก ได้มีความตระหนักและเห็นถึงความสำคัญในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยกลับสู่ภูมิลำเนา และที่ผ่านมาก็มีทั้งการเตรียมการในการจัดขบวนยานพาหนะนับ 100 คัน ไว้ที่กองทัพภาคที่ 2 และมีการขนย้ายมาบ้างแล้วในทางรถยนต์ ส่วนทางรถไฟในปัจจุบันก็มีการเตรียมแผนเช่นเดียวกัน แม้จะมีการเลื่อนไปเมื่อสัปดาห์ก่อนจากกรณีเกิดพายุดีเปรสชั่นเจิมปากา ทำให้จังหวัดนครพนมมีสภาพอากาศปิดเป็นอุปสรรคต่อการบิน จึงยังไม่ได้นำส่งผู้ป่วย แต่วันนี้ก็ดำเนินการลุล่วงแล้ว โดยในส่วนของจังหวัดนครพนมมีระยะทางที่ไกลและผู้ป่วยมีความจำเป็นเร่งด่วน ทางกองทัพบกก็ได้มีการสนับสนุนเครื่องบินลำเลียงแบบ 295 ซึ่งเป็นเครื่องบินที่ใช้งานทั่วไป เพื่อขนย้ายพี่น้องประชาชนที่พบเชื้อโควิดกลับภูมิลำเนาจำนวน 2 เที่ยวบิน เที่ยวแรกในเวลา 11.30 น จำนวน 18 คน และเที่ยวบินที่สองในเวลา 15.30 น. จำนวน 20 คน

หลังผู้ป่วยถึงบ้านเกิดแล้ว ทาง มทบ.210 ได้ดำเนินการลำเลียงผู้ป่วยจากสนามบินไปยังจุดพักคอยเพื่อคัดกรองผู้ป่วยก่อนนำส่งต่อไปยังจุดรักษาต่าง ๆ ตามอาการ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลหลักและโรงพยาบาลสนาม ในส่วนของค่ายพระยอดเมืองขวางก็ได้มีการเตรียมความพร้อมในการจัดสถานที่เพื่อรองรับเป็นลักษณะของโรงพยาบาลสนามเช่นเดียวกัน หากโรงพยาบาลฝ่ายพลเรือนมีเตียงไม่เพียงพอ ก็สามารถนำผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสนามค่ายฯได้ทันที

“ซึ่งก็อยากฝากถึงพี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับโรงพยาบาลค่ายพระยอดเมืองขวาง ที่เมื่อมีผู้ป่วยเข้าไปในค่ายแล้ว ทางค่ายจะมีมาตรการที่เข้มงวดและเข้มข้นในการที่จะไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดไปสู่ชุมชนและพื้นที่ โดยขอให้ทุกคนมีความมั่นใจในแนวทางการปฏิบัติว่าทางค่ายพระยอดเมืองขวางมีความพร้อมที่จะเป็นอีกหนึ่งหน่วยที่จะช่วยแบ่งเบาภาระและพร้อมในการแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่และเต็มประสิทธิภาพ” ผบ.มทบ.210 กล่าว

ทั้งนี้ตามที่กองทัพบกได้เปิดศูนย์บริการด้านโควิด ที่มีประชาชนได้ขอความช่วยเหลือในการเดินทางกลับภูมิลำเนาจังหวัดนครพนม ซึ่งการเดินทางใช้ระยะเวลานานถึง 13-15 ชม. และไม่สามารถจอดพักรถได้ ทำให้เกิดความลำบากทั้งในส่วนของผู้ป่วย และเจ้าหน้าที่ที่ไปรับ กองทัพบกจึงได้ใช้ศักยภาพในการลำเลียงผู้ป่วยครั้งนี้ เพื่อลดระยะเวลาในการเดินทาง และลดความเสี่ยงในการพักรถระหว่างทาง โดยเที่ยวบินนี้มีเด็กอ่อนที่เดินทางมาพร้อม กองทัพบกจึงต้องดูแลเป็นพิเศษ

โดยเที่ยวบินแรกนี้ นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง/ส.ส.นครพนมเขต 1 พรรคภูมิใจไทย ผู้เปิดโมเดลจัดส่งพี่น้องชาวจังหวัดนครพนมกลับรักษาตัวที่ภูมิลำเนา ก่อนจะมีจังหวัดอื่นนำโมเดลดังกล่าวไปดำเนินการในลักษณะเดียวกัน ก็ได้มาร่วมสังเกตการณ์และให้กำลังผู้ปฏิบัติงาน

ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่งการให้นำขีดความสามารถและทรัพยากรที่กองทัพบกมี มาช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 สั่งการเพิ่มเติมให้นำอากาศยานของกองทัพบก คือเครื่องบินลำเลียงแบบ 295 มาเป็นยานพาหนะในการเคลื่อนย้าย ส่งผู้ป่วยไปยังพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศ ล่าสุด ทีมลำเลียงผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทางอากาศกองทัพบก จากกรมการขนส่งทหารบก พร้อมด้วยแพทย์เวชศาสตร์การบินจากกรมแพทย์ทหารบก ได้นำเครื่องบินลำเลียงแบบ 295 ที่ดัดแปลงเป็นยานพาหนะส่งผู้ป่วยถึงท่าอากาศยานนครพนมเป็นเที่ยวบินแรก ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่มีความประสงค์จะกลับไปรักษายังภูมิลำเนาสามารถประสานไปยังศูนย์ประสานงานต้านภัยโควิดกองทัพบก (กทม.) โทร. 02-270-5685-9