"หลวงพี่น้ำฝน" เร่งช่วยหารพ. ให้แม่ลูกอ่อนวัย 16 วันติดโควิด ฟาดจนท.บางคนไร้น้ำใจ
30 ก.ค. 2564, 16:58
วันนี้ 30 ก.ค. 64 ผู้สื่อข่าว ONBnews รายงานว่า พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้รับการแจ้วประสานขอความช่วยเหลือจากประชาชนเพื่อขอให้นำรถพยาบาลไปรับหญิงสาวเพิ่งคลอดบุตร ซึ่งตรวจพบว่ามีการติดเชื้อทั้งแม่และลูกที่มีอายุ เพียง 16 วัน จากนั้นได้ส่งเจ้าหน้าที่ให้เข้าไปตรวจสอบโดยพบว่า สาวที่เพิ่ง คือนางสาวธิญาภรณ์ กลีบกำไร อายุ 20 ปี หรือเอิร์น ชาวอำเภอสามพาน จังหวัดนครปฐม ที่ได้กลับมาพักที่บ้านของสามี ที่บ้านเลขที่ 47 ม.2 ต.คลองจินดา อ.สามพาน จ.นครปฐม พร้อมกับบุตรสาว คือน้องไอรินทร์ อายุ 16 วัน โดยทั้งคู่มีการป่วยร่วมกับคนในบ้านทั้งหมด 9 คน ซึ่งได้มีการประสานมาตั้งแต่หัวค่ำของวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา
จากนั้นหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อมจึงได้มีการโทรประสานไปยังโรงพยาบาลสามพราน ตามภูมิลำเนาของผู้ติดเชื้อ ทราบว่าเตียงสำหรับผู้ป่วยมีการใช่จนครบอัตราการรับเข้าแล้ว โดยไม่มีเครื่องมือที่สามารถดูแลเด็กอ่อนได้ ซึ่งได้ตรวจสอบตามเอกสารที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐมพบว่ามีเตียงว่าง 6 เตียง จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเพื่อจะได้นำรถปฐมพยาบาลและเจ้าหน้าที่เพื่อจะนำตัวผู้เป็นแม่และลูกไปส่งเพื่อรับการรักษา โดยทางเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลนครปฐมได้รับปากว่าจะหาเตียงเพื่อดูแลทั้งแต่และเด็กให้
โดยช่วงเช้าตรู่รถกู้ชีพโดยกองทุนสวดเผาฟรี วัดไผ่ล้อม พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้ออกไปรับ นางสาวธิญาภรณ์ กลีบกำไร หรือเอิร์นและน้องไอรินทร์ ลูกสาว แต่ไม่สามารถมาส่งตรงได้เนื่องจากยังไม่มีใบรับรองผลการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงต้องขับรถพาวนไปที่ โรงพยาบาลบ้านแพ้ว อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร เพื่อไปรับผลการตรวจก่อน และวนกลับมาที่โรงพยาบาลนครปฐม เพื่อจะมาส่งตัวแต่ปรากฏว่ายังไม่สามารถรับตัวแม่ลูกคู่นี้ไว้ได้ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่า ด.ญ.ไอรินทร์ นั้นใช้สิทธิประกันสังคมที่โรงพยาบาลบ้านแพ้ว ไม่สามารถรับตัวได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่และหลวงพี่น้ำฝน ได้เร่งประสานงานกระทั่งทางโรงพยาบาลนครปฐม ได้รับตัวแม่และเด็กเข้าไปรอเตียง ในเวลา 10.30 น. ซึ่งด.ญ.ไอรินทร์ นั้นมีอาการตัวร้อนแดงมากขึ้นและยังไม่ได้ดูดนมตั้งตาเช้าตรู่
นางสาวธิญาภรณ์ กลีบกำไร อายุ 20 ปี หรือเอิร์น ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ บอกว่า ตนเองได้ไปคลอดลูกสาวที่โรงพยาบาลบ้านแพ้วเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยได้ตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 ก่อนหน้าที่จะทำการคลอด จนกระทั่งได้กลับมาพักที่บ้านสามี ซึ่งในวันอาทิตย์ที่ 25 ก.ค. รู้สึกมีอาการป่วย วันที่ 26 ก.ค.จึงได้พาน้องไอรินทร์ ไปตรวจที่โรงพยาบาลบ้านแพ้ว กระทั่งวันที่ 27 ก.ค. ทางโรงพยาบาลได้แจ้งมาว่า มีผลเป็นบวกคือติดเชื้อ ไวรัสโควิด-19
นางสาวธิญาภรณ์ บอกอีกว่าหลังจากทราบว่าตัวเองลูกสาว ทราบผลก็ได้ไปซื้อที่ตรวจมาจากร้านขายยาเพื่อมาตรวจผล ซึ่งพบว่าสามี แม่ตนเองและแม่สามี รวมถึงญาติในบ้านติดเชื้อเพิ่มอีก 7 คน รวมตนเองกับลูกเป็น 9 คน ซึ่งเป็นการติดเชื้อทั้งบ้านและน่าจะติดมาจากแม่สามีและแม่ของตนเองที่ได้ไปขายของในตลาดนัด
“เมื่อคืนวันที่ 28 กรกฎาคม น้องไอรินทร์ เริ่มมีไข้ขึ้นและมีน้ำมูก เราตกใจว่าลูกเรายังเล็กมีการติดเชื้อกลัวอันตรายจึงได้บอกญาติและเราก็ได้พยายามโทรหาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการรับรักษาตัวแต่ไม่มีใครรับสายหรือมีรับสายก็บอกว่าเตียงเต็มทั้งหมด ไม่มีใครรับสายเลยน้องไอรินทร์ก็ตัวแดงมากขึ้น ซึ่งญาติบอกว่าเห็นวัดไผ่ล้อมมีการดำเนินการเรื่องโควิด-19 น่าจะพอหาทางช่วยได้จึงได้ลองโทรมาหาและได้ให้กำลังใจรวมถึงยังได้พยายามโทรช่วยประสานมาเพื่อหาโรงพยาบาลให้หนูกับลูกซึ่งดีใจกมากเพราะหนูกลัวลูกของหนูจะเป็นอะไรไป” นางสาวธิญาภรณ์ กล่าว
ด้านพรระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เผยว่า เคสนี้ได้รับเรื่องจากการที่มีใครก็ไม่รู้โทรมาขอความช่วยเหลืออาตมาก็ได้ส่งคนมาเช็คแต่ก็ยากลำบากเพราะเขาติดเชื้อกันทั้งบ้าน ซึ่งมีคนที่รู้จักกันมาขอความช่วยเหลือซึ่งก็สงสารเพราะเด็กอายุแค่ 16 วันจึงได้ประสานไปยังโรงพยาบาลสามพราน ซึ่งก็เครื่องมือไม่พอเตีงก็เต็มซึ่งได้ประสานมาที่โรงพยาบาลนครปฐม ตั้งแต่เมื่อวานโดยเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงานก็รับปากว่าจะให้เด็กเข้ามารับการรักษา แต่วันนี้มาถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงปฎิเสธรับ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็บอกกลับมาว่าช่วยโทรไปหาผู้ใหญ่ให้สั่งการลงมาหน่อย อาตมาถามว่านี่คืออะไร
“จะให้อาตมาโทรไปหาผู้ใหญ่ให้สั่งการลงมาอาตมาบอกว่าไม่ทำแน่นอน เพราะที่เห็นตรงหน้าเป็นเด็กอายุแค่ 16 วันถามว่ามนุษยธรรมอยู่ตรงไหน อาตมารับเผาศพโควิด-19 ฟรีจริงแต่ก็ไม่อยากจะเผา อย่างกรณีนี้จะรอให้เข้าอาการหนักหรือตายก่อนจะมาเผาอาตมาว่าไม่ถูกต้อง และกรณีอื่นก็มีแต่ก็ไม่อยากจะพูด ต้องถามเจ้าหน้าที่ที่จะรับไม่รับเด็กเข้ารับการรักษที่ต้องให้ไปขอผู้ใหญ่ อาตมาไม่ทำ ถ้าอย่างนั้นให้เขาคิดก็แล้วกันว่าแล้วแต่เวรแต่กรรม ซึ่งรถรับส่งคนป่วยรับศพก็มีแค่คันเดียว เราก็ทำงานช่วยทั้งคนเป็นคนตาย วันนี้หลังจากรับส่งแม่ลูกคู่นี้แล้วก็ต้องไปรับศพไปส่งเผาตามวัดอื่นๆ ตรมภูมิลำเนา อีก 8 ศพ เราก็ทำเต็มที่แล้ว” หลวงพี่น้ำฝนกล่าวปิดท้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดทั้งแม่และน้องเอิร์น ได้ถูกรับตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนครปฐมแล้ว ส่วนพ่อสามีรักษาที่โรงพยาบาลวิชัยเวช ส่วนอีก 6 คนยังรอรับการรับตัวไปรักษาโดยหายาและประสานงานกันเอง ซึ่งขณะที่รถของวัดไผ่ล้อมไปรับแม่และน้องเอิร์น คนสูงอายุ 2-3 คน ได้ออกมาส่งและแจ้งขอความช่วยเหลือให้มีเจ้าหน้าที่มารับตัวไปรับษาบ้างเช่นกัน