"หลวงพ่อเล็ก" เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน เปลี่ยนผ้าครอง "หลวงพ่อสาย" อดีตพระเกจิฯชื่อดังภาคตะวันตก
31 ก.ค. 2564, 06:57
ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เมื่อวันที่ 29 กรกฏาคม 2564 ที่ผ่านมา พระครูวิลาศกาญจนธรรมดร (หลวงพ่อเล็ก) เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี,ประธานชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุน,ประธานหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลท่าขนุนและประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิ นำพระภิกษุสงฆ์วัดท่าขนุน เปลี่ยนผ้าครองถวายพระครูสุวรรณเสลาภรณ์(ฟลวงปู่สาย อคฺควํโส) อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน อดีตเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ และอดีตพระเกจิอาจารย์ชื่อดังจังหวัดกาญจนบุรี แห่งลุ่มน้ำแควน้อย ณ ศาลาร้อยปีหลวงปู่สาย วัดท่าขนุน หมู่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
"หลวงพ่อสาย"หรือ พระครูสุวรรณเสลาภรณ์ ท่านเป็นศิษย์(คน สุดท้าย)หลวงพ่อเดิม พุทฺธสโร เจ้าอาวาสวัดหนองโพธิ์ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดเขาทอง ต.เขาทอง อ.พยุหะศีรี จ .นครสวรรค์ได้รับฉายาว่า"อคฺควํโส" หลังจากบวชแล้ว ย้ายมาจำพรรษาและศึกษาพระธรรมวินัยและเวทมนต์คาถาจาก"หลวงพ่อเดิม"ที่วัดหนองโพธิ์ เป็นเวลา 5 พรรษา จนเมื่อ"หลวงพ่อเดิม"มรณภาพลงในปี2494 จึงออกเดินธุดงค์ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2496 หลวงพ่อสาย ได้เดินธุดงค์ผ่านมาที่วัดท่าขนุน ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เพื่อเข้าไปฝั่งประเทศพม่า จึงปักกลดปฎิบัติธรรมที่บริเวณวัดท่าขนุน ชาวบ้านเห็นวัตรปฎิบัติอันน่าเลื่อมใสจึงให้การอุปัฎฐากเป็นอย่างดี จากนั้นหลวงพ่อสายก็ได้ลาชาวบ้านเดินธุดงค์เข้าไปในประเทศพม่า ต่อมาในหลวงพ่อสายเดินธุดงค์กลับจากพม่าก็ได้แวะปักกลดที่วัดท่าขนุนอีก ชาวบ้านซึ่งนำโดย นายบุญธรรม นกเล็ก ได้นิมนต์หลวงพ่อสายอยู่เป็นเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ซึ่งกำลังขาดเจ้าอาวาสอยู่ แต่หลวงพ่อสายไม่รับปาก แต่บอกให้ไปกราบขอท่านกับหลวงปู่น้อย เตชปุญฺโญ เจ้าอาวาสวัดหนองโพธิ์ จ.นครสวรรค์ ซึ่งเป็นเจ้าปกครองดูแลท่านอยู่ แล้วหลวงพ่อสายก็ลาชาวบ้านกลับไปยังวัดหนองโพธิ์ จ.นครสวรรค์
หลังออกพรรษา ปี2497 นายบุญธรรม นกเล็ก นำชาวบ้านเดินทางไปที่วัดหนองโพธิ์ จ.นครสวรรค์กราบหลวงปู่น้อย ขอหลวงพ่อสายมาเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน เมื่อหลวงปู่น้อยอนุญาตแล้ว หลวงพ่อสายจึงเดินทางกลับมาพร้อมกับชาวบ้าน ถึงวัดท่าขนุนเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2497 และเริ่มทำการบูรณะวัดท่าขนุนตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
หลวงพ่อสาย ถือปฎิบัติในธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด และสันโดด เรียบง่าย ไม่สร้างเครื่องรางของขลังเป็นพุทธพาณิช์หรือจำหน่ายอย่างเด็ดขาด นอกจากบรรดาศิษยานุศิษย์จัดสร้างเพื่อมอบให้กับลูกศิษย์ที่นับถือใกล้ชิดไว้เป็นสิริมงคลเท่านั้น
หลวงพ่อสาย อคฺควํโส มรณภาพลงด้วยโรคชราเมื่อวันที่14กันยายน 2535 รวมสิริอายุได้ 78ปี46พรรษา ยังความโศกเศร้าเสียใจมายังชาวบ้านอำเภอทองผาภูมิตลอดจนบรรดาศิษยานุศิษย์ถ้วนหน้า และสังขารหลวงพ่อสาย บรรจุไว้ในโลงแก้วโดยที่ร่างกายไม่เน่าเปื่อยเลย