นครพนม พบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่ม 152 ราย ปิด 2 หมู่บ้าน งดเข้า-ออก
2 ส.ค. 2564, 14:22
วันที่ 2 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม ผู้บัญชาการเหตุการณ์ คณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข พร้อมกลุ่มภารกิจดูแลรักษาผู้ป่วย ลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้าการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัยนครพนม ณ อาคารเรียนรวม คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม บ้านเนินสะอาด ตำบลหนองญาติ อำเภอเมืองนครพนม ซึ่งสามารถรองรับผู้ป่วยได้ 270 เตียง และได้รับการสนับสนุนอาหารแช่แข็งจากทางภาคเอกชนไว้สำหรับบริการผู้ป่วยครบทั้ง 3 มื้อ นอกจากนั้นยังมีระบบติดตามเฝ้าสังเกตอาการจากทีมแพทย์ พยาบาล ผ่านกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง โดยโรงพยาบาลสนามแห่งนี้จะพร้อมเปิดใช้ในวันที่ 5 สิงหาคม ที่จะถึงนี้
ในส่วนของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจังหวัดนครพนม ประจำวันที่ 2 สิงหาคม 2564 มีรายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันเพิ่ม 152 ราย รวมสะสม 2,411 ราย มีผู้รักษาหายกลับบ้านเพิ่ม 50 ราย กำลังรักษาอยู่ 1,416 ราย และมีผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 10 ราย โดยผู้ป่วยยืนยันเพิ่มในวันนี้ส่วนใหญ่ยังคงเป็นผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงเกือบทั้งหมด
ล่าสุดทางด้านนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อนครพนม ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดนครพนม โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม ได้มีคำสั่งห้ามผู้ใดเข้าหรือออกจากพื้นที่บ้านบะหว้า หมู่ที่ 5 และหมู่ที่ 7 ต.ท่าเรือ อ.นาหว้า เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อ 1 ราย ในพื้นที่บ้านบะหว้า หมู่ที่ 5 และหมู่ที่ 7 ต.ท่าเรือ มี ผู้ป่วยเข้าข่าย 1 ราย และพบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีก 38 ราย จึงจำเป็นต้องทำการปิดสถานที่และห้ามเข้า-ออกสถานที่ที่กำหนดเป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 1-7 สิงหาคม เพื่อทำการตรวจเชิงรุกประชาชนทั้ง 2 หมู่บ้านดังกล่าว หากมีความจำเป็นจะต้องเข้าหรือออกจากพื้นที่ให้ขออนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม หรือนายอำเภอนาหว้า หรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อที่ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมหรือนายอำเภอนาหว้าเท่านั้น
หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548
ทั้งนี้ สาเหตุที่ต้องปิด 2 หมู่บ้านชั่วคราว เกิดจากชายคนหนึ่งมีอาชีพทำแหนมหมูส่งขายตลาด โดยจะต้องขับรถยนต์ไปรับหนังหมูที่จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงสูงสีแดงเข้ม ไม่ยอมแจ้งรายงานตัว ไม่ตรวจหาเชื้อ และไม่ยอมกักตัว 14 วัน ตามมาตรการความปลอดภัย แต่ภายหลังตรวจพบว่าป่วยติดเชื้อโควิด นอกจากจะทำตัวปกติแล้วยัง ไปร่วมงานศพถึง 2 งานสองวันติด และมีไทม์ไลน์จับกลุ่มวงเล่นพนันไฮโลด้วย ในช่วงระหว่างวันที่ 29-30 ก.ค.ที่ผ่านมา ก่อความเสี่ยงให้เกิดคลัสเตอร์การระบาดในชุมชนและอาจถูกดำเนินคดีจากการจงใจละเมิดมาตรการ COVID-19 ของจังหวัดฯ
หลังมีผลยืนยันผู้ป่วยติดเชื้อแล้ว 1 ราย และผู้มีอาการเข้าเกณฑ์รอผลตรวจยืนยัน 1 ราย มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงถึง 38 ราย โดยทาง อสม. คัดกรองผู้มีความเสี่ยงไป 162 รายตรวจรอบแรกไม่มีผู้ติดเชื้อจะรอตรวจซ้ำ ล่าสุด โดยเจ้าหน้าที่เข้าตรวจเชิงรุกชาวบ้านทั้งหมดในพื้นที่เพื่อป้องกันคลัสเตอร์การแพร่ระบาด ขณะเดียวกันทาง รพ.นาหว้า จึงต้องงดรับการตรวจโควิด 1 วัน เพื่อระดมสรรพกำลังลงพื้นที่ตรวจคัดกรองใน 2 หมู่บ้านดังกล่าว