ป เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 21 สิงหาคม 62 ผู้สื่อข่าว onb news รายงานว่า ร.ต.อ.ติพล วาดโคกสูง รอง.สว (สอบสวน) สภ.วังขอนแดง รับแจ้งเหตุรถบรรทุกพ่วงแหกโค้งลงเขาข้ามเลนชนรถยนต์กระบะ และเสาไฟฟ้าส่องสว่าง ป้ายบอกทางได้รับความเสียหาย ในที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดบนถนนทางหลวงสาย 304 ทางโค้งขึ้นลงเขาศาลเจ้าพ่อปู่โทน กม.210 ม.8 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี หลังรับแจ้งพร้อมด้วยเจ้าตำรวจทางหลวงนาดี หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสัจจพุทธธรรมกบินทร์บุรี รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกช่วงยาวไม่ทราบยี่ห้ออีซูซุ หัวสีขาว ทะเบียน 70-9368 นครสวรรค์ สภาพพลิกคว่ำข้ามเลนชนแท่งแบริเออคอนกรีตมายังฝั่งถนนที่จะมุ่งหน้าเข้า อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา พังยับแหลกทั้งคันทำให้กระบะท้ายรถที่บรรทุกไก่พันธุ์เนื้อ ที่อยู่ในลังพลาสติกจำนวนหลายพันตัวหลุดออกจากตัวรถทำให้ไก่ที่บรรทุกมาจะเข้าโรงเชือดตายเกลื่อนถนน ส่วนบริเวณด้านหน้ารถพบผู้เสียชีวิต 1ราย ติดคาซากรถเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้ใช้เครื่องตัดถ่างงัดร่างออกมา ทราบชื่อคือนายนิพนธ์ สุพรรณ์กลาง อายุ 28 ปี เป็นคนขับ อยู่บ้านเลขที่212 หมู่ 1 ต.สระว่านพระยา อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา นอกจากนี้บริเวณด้านบนห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร บริเวณโค้งหน้าศาลเจ้าพ่อปู่โทน ยังพบรถยนต์กะบะ ยี่ห้อ Isuzu d-max สีขาว ทะเบียน ญฒ 7801 กรุงเทพมหานคร พลิกตะแคงข้างสภาพด้านหน้าพังยับเยินข้าวของที่อยู่ท้ายรถกระจัดกระจายเกลื่อนถนนและมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 ราย ชาย 1 ราย หญิง 1 ราย และเด็กชาย 2 ราย สภาพบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้ปฐมพยาบาลส่ง รพ.นาดี ให้แพทย์ตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง จากการสอบถามนายปรัชญา บุราคร อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ 19 /5 หมู่ 1 ต.พรมพัฒนา อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง กล่าวว่า เห็นรถสิบล้อเหวี่ยงตระแคลงลงมาจากทางโค้งแล้ว แฟนก็ร้องมันๆก็ตูมมาใส่ผมมันข้ามตรงนี้ มาด้วยกันทั้งหมด 4 คน บาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนตนเดินทางมาจากระยองจะไปบุรีรัมย์ ทั้งหมดมาด้วยกันเป็นครอบครัว สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 ราย ทราบชื่อคือ นางปรียานุช แย้มโกสุม อายุ 40 ปี เด็กชายปวรรุต บุราคร อายุ 4 ปี และ เด็กชายปกรณ์เกียรติ บุราคร อายุ 2 ปี ทั้งหมดอยู่บ้านเลขที่ 88 หมู่ 1 ต.นิคมพัฒนา อ.นิตมพัฒนา จ.ระยอง ส่วนในที่เกิดเหตุส่งผลทำให้รถติดยาวหลายกิโลเมตรนาน นับชั่วโมงทั้ง 2 ฝั่งทางถนน เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งกู้ซากรถเพื่อเปิดการจราจรให้รถวิ่งตามปกติ ส่วนสาเหตุน่าจะเกิดจากคนขับรถบรรทุกไม่ชำนาญเส้นทาง หรืออาจจะให้ความเร็วสูง อย่างระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ต่อไป