เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ผู้ต้องหา 8 ราย ในคดีอุ้มฆ่า "เสี่ยโกศล" เข้ามอบตัวแล้ว หลังหลบหนีมานานร่วม 3 เดือน


2 ส.ค. 2564, 16:45



ผู้ต้องหา 8 ราย ในคดีอุ้มฆ่า "เสี่ยโกศล" เข้ามอบตัวแล้ว หลังหลบหนีมานานร่วม 3 เดือน




เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 ส.ค.  ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ สภ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี นายสุรัตน์ เศวตศิลป์ อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดไชยา ในข้อหาร่วมกันฆ่านายโกศล เรืองดุก อายุ 45 ปี พร้อมพวก 7 คน ประกอบด้วย  นายคำธร หรือแน็ค เศวตศิลป์ อายุ 32 ปี นายสุรชัย หรือ ตาชัย คงสุข อายุ 39 ปี นายเกรียงไกร หรือเป็ด เพชรแสงสง่า อายุ 34 ปี นายเจริญ หรือพร คะเชนทอง อายุ 56 ปี นายจิรายุทธ หรือ โจ้ เศวตศิลป์ อายุ 24 ปี  นายทิวากร หรือ บี เลื่องสุนทร อายุ 33 ปี นายนพดล เศวตศิลป์ อายุ 33 ปี เข้าพบมอบตัวกับ พ.ต.อ.อรุณพงษ์ ภารพบ ผกก.สภ.ไชยา เพื่อต่อสู้คดีหลังหลบหนีการจับกุมนานร่วม 3 เดือน ทั้งนี้ตำรวจไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนบันทึกภาพแต่อย่างใด

ต่อมาเมื่อเวลา 11.15 น. พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิรุฬห์ สุวรรณวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี รับผิดชอบงานสอบสวน ,พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี และ พ.ต.อ. อรุณพงษ์ ภารพบ ผกก. สภ.ไชยา ร่วมกันแถลงความคืบหน้าในการรับมอบตัวผู้ต้องหา และซักถามปากคำ

 



พล.ต.ต.สาธิต กล่าวว่า ในการซักถามเบื้องต้น ทราบว่าหลังก่อเหตุผู้ต้องหาได้แยกย้ายกันหลบหนี มีบางคนที่อยู่ด้วยกัน ส่วนใหญ่หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ควบคุมเสี่ยงสูงของโรคโควิด-19  เมื่อรับมอบตัวแล้วเราต้องดำเนินการมาตราการความปลอดภัยด้านสาธารณสุข โดยประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอไชยา เข้าตรวจหาเชื้อกับผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย ซึ่งผลการตรวจในเบื้องต้นเป็นลบ แต่ระหว่างที่สอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดต้องปฏิบัติตามมาตราการด้านสาธารณสุข ซึ่งการเข้ามอบตัวของผู้ต้องหาในวันนี้ ได้มี ทนายเดินทางมาด้วย 2 คน และขอใช้สิทธิในการถ่ายภาพผู้ต้องหา ซึ่งเป็นไปตามสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ต้องหาที่สามารถทำได้อย่างไรก็ตามในการพูดคุยเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ซึ่งเป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่จะให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน แต่ในทางคดีนั้น เรามั่นใจในพยานหลักฐาน โดยหลังจากนี้ จะดำเนินการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์อื่นๆ เพื่อเป็นพยานหลักฐานทางคดีต่อไป

พล.ต.ต.สาธิต กล่าวด้วยว่า ได้รายงานผลการมอบตัวของผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ให้พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนในคดี ทราบแล้ว ซึ่งท่านได้มีการกำชับพนักงานสอบสวนให้สอบสวนคำผู้ต้องหาโดยละเอียด ให้เป็นไปตามขั้นตอนและเป็นธรรมกับทุกๆ ฝ่าย ส่วนจะมีการให้ประกันตัวผู้ต้องหาในชั้นพนักงานสอบสวนหรือไม่นั่น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้บังคับบัญชาระดับสูง เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์และอยู่ในความสนใจของประชาชนทั่วประเทศ ประกอบกับลักษณะการก่อคดีเข้าข่ายเป็นการกระทำของกลุ่มผู้มีอิทธิพล ซึ่งเป็นไปได้ว่าหากมีการให้ประกันตัวอาจจะไปก่อความยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานในคดี 

" ในช่วงที่ผู้ต้องหาทั้ง 8 คนหลบหนี ญาติได้มีการติดต่อมอบตัวอย่างน้อย 3-4 ครั้ง แต่มีเงื่อนไขต่อรองกับเจ้าหน้าที่มาโดยตลอด ซึ่งเราไม่สามารถทำได้ และได้มีการจัดชุดจนท.ตร.ออกติดตามและกดดันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในการเข้ามอบตัวครั้งนี้ ได้สอบถาม นายสุรัตน์ ทราบว่าสาเหตุที่เข้ามอบตัวในครั้งนี้ เนื่องจากทราบว่าคดีที่ถูกออกหมายจับมีอายุความ 20 ปี ซึ่งในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาที่หลบหนีไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ติดต่อใครไม่ได้ จึงตัดสินใจเข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้คดี โดยไม่มีเงื่อนไข ซึ่งได้กำชับให้คณะพนักงานสอบสวน สอบปากคำผู้ต้องหาให้ละเอียดครบถ้วนและให้ทันภายในกฎหมายกำหนด

สำหรับคดีดังกล่าว เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม นางจินดาหรา วศินทรัพย์ อายุ 31 ปี ได้แจ้งต่อพนักงานสอบสวน สภ.ไชยา ว่า เมื่อวันที่ 2 พ.คเวลาประมาณ 22.00 น. นายโกศลหรือตุ้ม  เรืองดุก อายุ 45 ปี  สามีของตน ได้ออกจากบ้านไปดื่มสุรา ที่ศาลาหน้าบ้านเลขที่ 89 หมู่ที่ 5 ต.ตะกรบ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ต่อมา ในเวลาประมาณ 01.00  น. ของวันที่ 3 พฤษภาคม  ตนไม่สามารถติดต่อนายโกศลได้ จึงได้เดินทางไปหาผู้ตาย ที่บ้านที่เกิดเหตุ แต่ไม่พบผู้ใด จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรไชยา ไปตรวจสอบที่บ้านที่เกิดเหตุ พบรอยเลือดจำนวนมาก จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรไชยาและตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อทำการสืบสวนสอบสวนในคดีนี้ไว้แล้ว ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนได้สืบสวนสอบสวนจนทราบว่าสาเหตุความขัดแย้งมาจากการทำธุรกิจลากลอย ซึ่งลูกน้องของนายสุรัตน์ และนายโกศล มีปัญหากระทบกระทั่งกันเรื่องที่จอดเรือ และนายสุรัตน์ ได้เรียกนายโกศล ไปเคลียร์ปัญหายังบ้านที่เกิดเหตุ จนนำไปสู่การฆาตกรรม เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดและร้องขอต่อศาลจังหวัดไชยา และศาลได้ออกหมายจับ ผู้ที่ร่วมกระทำความผิด 8 ราย  คือ นายสุรัตน์ เศวตศิลป์ อายุ 43 ปี, นายคำธร หรือแน็ค เศวตศิลป์ อายุ 34 ปี, นายสุรชัย หรือตาชัย คงสุข อายุ 32 ปี, นายเกรียงไกร หรือเป็ด หรือเพชร แสงสง่า อายุ 34 ปี, นายเจริญ หรือพร คะเชนทอง อายุ 56 ปี, นายจิรายุทธ หรือโจ้ เศวตศิลป์ อายุ 24 ปี  ,นายทิวากร หรือบี เลื่องสมุทร อายุ 33 ปี , นายนพดล เศวตศิลป์ อายุ  33 ปี  ในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่น โดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยไม่มีเหตุอันควรและจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์, ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุมและร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย และอั้งยี่ซ่องโจร”

ในส่วนทาง นายธีระศักดิ์ อายุ 50 ปี เป็นพี่ชาย และนายพุฒิศรัญญู 26 ปี ลูกชายของนายโกศล เรืองดุก ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย เดินทางเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.ไชยา หลังคดียืดยื้อมา เกือบ 100 วัน ทำให้ความหวังที่ได้จากแนวทางการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย จะได้ทราบว่า ศพอยู่ที่ใด เพราะยังคงต้องการนำร่างมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ส่วนเรื่องคดีให้เป็นไปตามกระบวนการ และเตรียมยื่นคัดค้านการประกันตัวหากมีการให้ผู้ต้องหาประกันตัว เพราะเป็นคดี อุกอาจ และใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวง

 


 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.