วันที่ 2 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิศากร สิงหเสนี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้มอบหมายให้นายชัยชาญ มูลมาก จ่าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะเลขานุการกาชาดจังหวัดประจวบฯ ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับจังหวัดและอำเภอ เข้าให้ความช่วยเหลือ นางสาวมะลิ แสนสิงห์ อายุ 25 ปี อดีตแม่บ้าน กศน.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชาวบ้านหาดขาม อำเภอกุยบุรี ซึ่งมีอาการแท้งบุตรหลังเข้ารับการฉีดวัคซีน เข็มที่ 2 ยี่ห้อ แอสตร้าเซนเนก้า ที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา และขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่บ้านหาดขาม หมู่ 3 ตำบลหาดขาม อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ติดกับวัดหาดขาม จนเป็นสาเหตุให้ต้องตกงานด้วยอาการเจ็บป่วยจนไม่สามารถต่อสัญญาจ้างทำงานที่พึ่งจะหมดไป เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมาได้ โดยได้เดินทางพร้อมด้วย นายโอภาศ ศรีฉันทะมิตร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดประจวบ (พมจ.) นางสาวพนิดา ชูแข นักสังคมสงเคราะห์ชำนาญการ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ฝ่ายปกครองอำเภอกุยบุรี อบต.หาดขาม และ กศน.อำเภอกุยบุรี เดินทางเข้าพบปะเยี่ยมเยียนให้กำลังใจพร้อมซักถามอาการ และเตรียมหาช่องทางให้ความช่วยเหลือในด้านอื่นๆ โดยมี นายเทอดศักดิ์ อิ่มโอษฐ์ ผู้ใหญ่บ้านหาดขาม ให้การต้อนรับ
 

 

 

โดยในเบื้องต้นสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดได้มอบข้าวสารอาหารแห้ง และพัดลม จำนวน 1 ตัว พร้อมเงินจำนวน 1,000 บาท เพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) ได้มอบเงินสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมในกรณีฉุกเฉิน จำนวน 2,000 บาท เพื่อเป็นการช่วยเหลือในระหว่างพักงาน และรักษาตัว พร้อมกันนี้ทางด้านนายชัยชาญ มูลมาก จ่าจังหวัดประจวบ ได้ประสานขอความอนุเคราะห์จาก ผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.จังหวัดประจวบ เพื่อให้ นางสาว มะลิ สามารถกลับเข้าไปทำงานที่เดิมได้ หลังจากพักฟื้นรักษาอาการแท้งลูกจนหายป่วยแล้ว

ซึ่งขณะนี้อาการเบื้องต้นของ นางสาวมะลิ ยังมีอาการเวียนหัว อ่อนเพลีย และมีเลือดออกทางช่องคลอดอยู่ตลอดเวลาแต่มีปริมาณน้อยลงแล้ว โดยในวันพฤหัสบดี ที่ 5 สิงหาคมนี้ จะต้องเดินทางไปพบแพทย์เพื่อขูดมดลูกและหลังจากนั้นต้องพักรักษาตัวต่ออีกระยะจนกว่าจะหาย จึงจะสามารถกลับไปทำงานที่เดิมได้ โดยนางสาวมะลิ มีความรู้สึกดีใจจนน้ำตาไหลที่ตนเองไม่ต้องตกงาน และมีหลายหน่วยงานเข้าให้ความช่วยเหลือ โดยที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะได้รับความช่วยเหลือเช่นนี้ และได้รับโอกาสกลับเข้าทำงานในที่เดิม เนื่องจากตนเองเป็นเสาหลักในการหารายได้เข้าสู่ครอบครัว ซึ่งถ้าตนเองต้องตกงานครอบครัวก็ได้รับความลำบากอย่างแน่นอน โดยได้กล่าวขอบคุณทุกๆ หน่วยงานที่เข้าให้ความช่วยเหลือตนครั้งนี้

นอกจากนี้ทางด้านนายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ประจวบคีรีขันธ์ ได้แจ้งให้ทีมสาธารสุขอำเภอเข้าไปดูแลช่วยเหลือดูแลอาการ พร้อมส่งรายละเอียดให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ( สป.สช.) พิจารณาว่าเข้าข่ายจะได้รับความช่วยเหลือเยียวยาตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดหรือไม่ เนื่องจากตรวจสอบพบว่านางสาวมะลิ อดีตแม่บ้านสำนักงาน กศน. ผู้ฉีดวัคซีนและเจ้าหน้าที่ที่คัดกรองไม่ทราบมาก่อนว่าตนเองตั้งครรภ์ ขณะที่การฉีดวัคซีนโควิดจะต้องรอให้อายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ก่อน เพื่อความปลอดภัยของทารก ขณะที่ภาวะปกติมารดาที่ตั้งครรภ์ทั่วไป มีโอกาสแท้งก่อน 12 สัปดาห์ ได้จากหลายสาเหตุ และขณะนี้ยังไม่มีผลการศึกษาว่าปัญหาการแท้งบุตรจะเกิดจากวัคซีนได้หรือไม่ แต่เพื่อเป็นการช่วยเหลือในขณะยังไม่มีงานทำระหว่างการพักฟื้น นายแพทย์ สสจ.ประจวบฯ กล่าวว่า