"จังหวัดชุมพร" สั่งปิดชุมชนแรงงานต่างด้าว หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 กว่า 60 ราย
4 ส.ค. 2564, 08:04
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ของเชื้อโควิด19 จังหวัดชุมพร ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 64 จนถึงวันที่ 2 สิงหาคม 64 มีผู้ป่วยยืนยันสะสม จำนวน 1,067 ราย รักษาหายกลับบ้านได้แล้ว จำนวน 430 ราย เสียชีวิตสะสม 3 ราย และยังรักษาอยู่ใน รพ.และสถานที่ 18 แห่ง ที่จังหวัดจัดไว้ให้ จำนวน 634 ราย ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่พบมากมาจากกลุ่มประกอบการล้งทุเรียน อ.หลังสวน จ.ชุมพร พบสูงสุด 26 รายในวันเดียว
โดยล่าสุดวันนี้พบคลัสเตอร์ใหญ่ ในพื้นที่ ม.12 บ้านทุ่งน้ำใส ต.ดอนยาง อ.ปะทิว จ.ชุมพร ซึ่งเป็นชุมชนใหญ่ ตั้งอยู่ริมถนนคู่ขนานรถไฟ ตรงข้ามที่ทำการเทศบาลตำบลดอนยางและสถานีตำรวจบ้านมาบอำมฤต เพียง 300 เมตร เป็นชุมชนที่มีแรงงานต่างด้าว ชาวเมียนม่า กว่า 100 คน อาศัยอยู่รวมกันในบ้านเช่าแบบชั้นเดียวปลูกติดกันเป็นห้องกว่า 40 ห้อง โดยมีอาชีพรับจ้างกรีดยาง ทำงานในโรงงานแปรรูปไม้ โรงน้ำแข็งและทำสวน โดยเจ้าหน้าที่ได้ลงทำการปูพรมเข้าตรวจ และพบเป็นบวก ไม่แสดงอาการ ยืนยัน 61 ราย ซึ่งเป็นการพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด19 มากที่สุดของจังหวัดชุมพรจากการแพร่ระบาด เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการปิดชุมชนดังกล่าว โดยสั่งห้ามแรงงานทั้งหมดออกนอกพื้นที่อย่างเด็ดขาด และจะทำการคัดกรองอาการอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ เพื่อคัดแยกกลุ่มไปกักตัวที่สมาคมฟุโจวแห่งประเทศไทยต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การพบผู้ติดเชื้อในชุมชนแรงงานต่างด้าว เป็นจำนวนมาก ในครั้ง สืบเนื่องมาจาก เมื่อช่วงเข้าพรรษา แรงงานต่างด้าวชาวเมียนม่า ได้จัดงานทำบุญและเลี้ยงสังสรรค์กัน มีแรงงานต่างด้าวจากหลายๆพื้นที่ ใน อ.ปะทิว อ.ท่าแซะ จ.ชุมพรและ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มาร่วมงาน กว่า 200 คน และมีแรงงานต่างด้าว เริ่มมีอาการป่วย หลายคนและได้เดินทางมาตรวจหาเชื้อ โควิด-19 เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 64 ผลพบเชื้อโควิด19 ทุกคน ทางเจ้าหน้าที่ได้สอบสวนโรค จึงทราบที่มาและได้ลงทำการปูพรมตรวจ ในชุมชนที่อาศัยกันอยู่ จาก 81 ราย พบเชื้อโควิด 61 ราย และได้ปิดชุมชนไม่ให้ออกจากพื้นที่ดังกล่าว